นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ก.ล.ต.ได้แต่งตั้งกรรมการตลาดหลักทรัพย์ 6 ราย ประกอบด้วย นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงษ์, นายจรัมพร โชติกเสถียร, นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์, นางวรวรรณ ธาราภูมิ, นายเสรี นนทสูติ และนางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ส่วนตัวแทนจากสมาชิก (โบรกเกอร์) ของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งได้เลือกตั้งไปแล้ว 4 ราย คือ นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีรภพ, นายไพบูลย์ นลินทรางกูล, นายนรเชษฐ์ แสงรุจิ และนายธิติ ตันติกุลานันท์ โดยคณะกรรมการชุดใหม่มีผลตั้งแต่ 5 ส.ค.62 มีวาระดำรงตำแหน่ง 3 ปี
นางสาวรื่นวดี ยังกล่าวว่า ก.ล.ต.เตรียมเพิ่มเกณฑ์กำกับดูแลตราสารหนี้ โดยไม่ให้นักลงทุนซื้อตราสารหนี้ที่เสนอขายในวงจำกัด (PP) ที่ไม่มีการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ขออนุญาต ก.ล.ต.โดยเตรียมเสนอบอร์ด ก.ล.ต.พิจารณา 14 ส.ค.นี้ และจะเพิ่มเกณฑ์การกำกับดูแลอื่นๆ เช่น การติดตามผู้ออกขายตราสารหนี้ โดยเฉพาะตราสารที่มีความเสี่ยงด้านฐานะการเงิน จะกำหนดให้อธิบายความเสี่ยงและความสามารถในการชำระหนี้ รวมถึงให้ตัวกลางขายตราสารหนี้ใช้ความระมัดระวังในการทำหน้าที่มากขึ้นด้วย รวมทั้งเพิ่มกลไกจัดการเมื่อเกิดการผิดนัดชำระหนี้ เช่น กำหนดเวลาชัดเจนที่ผู้ออกตราสารหนี้ต้องรายงานการผิดนัดชำระหนี้ ให้ความรู้ผู้ลงทุนในการรักษาสิทธิ ดำเนินคดีเรียกร้องค่าเสียหายและการฟ้องร้องบังคับคดี ซึ่งจะเปิดรับฟังความคิดเห็นผู้เกี่ยวข้องภายใน ส.ค.นี้ “สาเหตุที่ต้องเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลตราสารหนี้ เนื่องจาก 8 ปีที่ผ่านมา ตราสารหนี้เอกชนโตถึง 3 เท่า มูลค่ารวมสิ้น พ.ค.62 อยู่ที่ 4.14 ล้านล้านบาท โดยมีตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูงทั้งไม่มีการจัดอันดับ (เรตติ้ง) และมีเรตติ้งต่ำกว่า BBB ถึง 234,000 ล้านบาท”.