ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 29 ม.ค.62 ปิด 1,624.05 จุด ลบ 0.98 จุด มีมูลค่า การซื้อขาย 51,720.01 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,289.18 ล้านบาท ขณะที่ กองทุนในประเทศขายสุทธิ 3,978.45 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 48.25 บาท ลบ 0.50 บาท, PTTEP ปิด 118.50 บาท ลบ 3 บาท, CPALL ปิด 78.75 บาท บวก 1.25 บาท, SCC ปิด 470 บาท บวก 4 บาท และ PTTGC ปิด 67 บาท บวก 0.50 บาท
ตลาดพักตัวตาม Sentiment หุ้นโลกและราคาน้ำมัน ขณะที่นักลงทุนรอติดตามผลประชุม FED วันที่ 29-30 ม.ค. และความคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนวันที่ 30-31 ม.ค. รวมทั้งการประกาศงบฯ ของบริษัทจดทะเบียนไทย
บล.เออีซี (ประเทศไทย) มอง Sentiment การลงทุนในประเทศเริ่มดีขึ้นจากการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน จะช่วยดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทยมากขึ้น และกระตุ้นให้มีการซื้อกลับจากต่างชาติเพิ่มขึ้นบวกกับค่าเงินบาทที่มีเสถียรภาพ
ขณะหุ้นไทย Laggard สุดในตลาดหุ้นกลุ่ม TIP Market โดยตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เทรด Fwd PE ปีนี้ที่ 17.1 เท่า ขณะที่อินโดนีเซีย เทรด Fwd PE ปีนี้ที่ 14.9 เท่า และไทยเทรด Fwd PE ปีนี้ที่ 13.8 เท่า
ดังนั้น ยังคงแนะนำ 3 กลุ่มหุ้นเด่น + 1 กลุ่มหุ้นขนาดเล็ก ดังนี้ 1.กลุ่มท่องเที่ยว แนะนำ CENTEL, ERW และ AOT 2.กลุ่มจำนำทะเบียน รถ แนะนำ SAWAD, MTC และ AMANAH 3.กลุ่มนิคมและสาธารณูปโภค แนะนำ AMATA, WHA และ EASTW 4.หุ้นขนาดเล็กที่คาดกำไรปี 62 โตเด่น บวกกับ Cheap Valuation แนะนำ JMT และ HARN
ขณะที่มีปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม คือการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ในช่วงวันที่ 30-31 ม.ค.นี้ เป็นปัจจัยเชิงบวกต่อตลาด รวมทั้งปัญหาภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาลชั่วคราวของสหรัฐฯ ที่กลับมาเปิดดำเนินการชั่วคราวอีกครั้ง รวมทั้งการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐฯช่วงวันที่ 29-30 ม.ค. คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม
ส่วนปัจจัยเสี่ยงมาจากการประกาศผลการดำเนินงาน 4Q/18 ของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ซึ่งอาจออกมาต่ำกว่าหรือมากกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ตลาดยังมีความผันผวน และจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯที่จะมีผลต่อทิศทางการขึ้นของอัตราดอกเบี้ย FED และภาวะเศรษฐกิจในอนาคต!!
อินเด็กซ์ 51