ภาวะการซื้อขายหุ้น
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,667.91 จุด ลดลง 1.67% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 11.23% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 49,987.03 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ลดลง 2.03% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 426.79 จุด
สำหรับสัปดาห์นี้ (22-26 ต.ค.) บริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,650 และ 1,630 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,680 และ 1,690 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3/2561 และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบีย
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2561 ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ก.ย. ดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) เดือน ต.ค. ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือน ต.ค. ของประเทศแถบยุโรป และญี่ปุ่น
ภาวะตลาดเงินและอัตราแลกเปลี่ยน
สำหรับสัปดาห์นี้ (22-26 ต.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.50-32.90 บาทต่อดอลลาร์ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศน่าจะอยู่ที่ตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือน ก.ย. ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือน ก.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือน ต.ค. ตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 3/2561 (advance) และรายงาน Beige Book ของเฟด
นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและจีน ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป และดัชนี PMI ของประเทศชั้นนำอื่นๆ.
บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด