ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 28 พ.ค.61 ปิด 1,734.54 จุด ลดลง 6.67 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 50,746.21 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,878.5 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส (ASP) แนะหลีกเลี่ยงหุ้นน้ำมันช่วงนี้ที่ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกผันผวน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันปรับลงถึง 4% และมีแนวโน้มจะปรับลงอีก ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบ ซึ่งฝ่ายวิจัยใช้เป็นสมมติฐาน มีโอกาสหลุดต่ำกว่า 70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ด้วยเหตุผลดังนี้
ราคาน้ำมันดิบปรับลงจากความกังวลเรื่อง supply จะเพิ่มขึ้น หลังล่าสุดกลุ่มโอเปกและรัสเซียจะกลับมาผลิตน้ำมันเพิ่ม เพื่อชดเชยกำลังการผลิตของอิหร่าน และเวเนซุเอลาที่จะหายไปจากการถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร จากเดิมที่กลุ่มโอเปกและรัสเซียตกลงร่วมกันลดกำลังผลิตตั้งแต่เดือน พ.ย.59
ทั้งนี้ อิหร่านผลิตน้ำมันได้ 3.75 ล้านบาร์เรล/วัน คิดเป็น 11.7% ของกำลังผลิตกลุ่มโอเปกทั้งหมด แต่ส่งออกวันละ 2.5 ล้านบาร์เรล ส่วนเวเนซุเอลาผลิตได้ 1.55 ล้านบาร์เรล/วัน คิดเป็น 4.3% ส่งออกวันละ 1.19 ล้านบาร์เรล
ส่วนสหรัฐฯในอดีตเคยนำเข้าน้ำมันถึง 15.3 ล้านบาร์เรล/วัน และผลิตเองได้ 5.4 ล้านบาร์เรล/วัน แต่บริโภคน้ำมันสูงถึง 20.7 ล้านบาร์เรล/วัน แต่ปัจจุบันสหรัฐฯนำเข้าน้ำมันลดลงเหลือ 9 ล้านบาร์เรล เพราะผลิตน้ำมันได้ถึง 10.73 ล้านบาร์เรล มากสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากรัสเซีย แถมตั้งเป้าผลิตให้ได้ 11 ล้านบาร์เรล/วัน ในปลายปีนี้
ขณะที่ Dollar Index มีแนวโน้มแข็งค่าในระยะกลาง-ยาว โดยแข็งค่าราว 5.1% นับตั้งแต่จุดต่ำสุดกลาง เม.ย.ที่ผ่านมา กดดันกรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบโลก โดยราคาน้ำมันเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีมาอยู่ที่ 66 เหรียญฯ
ดังนั้นฝ่ายวิจัยยังคงแนะนำ Switch หรือหลีกเลี่ยงจากหุ้นน้ำมันทุกตัว โดยก่อนหน้านี้ได้ปรับลดคำแนะนำหุ้น PTTEP กดราคาพื้นฐานเหลือ 137 บาท และปรับลดราคาพื้นฐานหุ้น PTT เหลือ 54 บาท ไปเมื่อ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยแนะให้ Switch ไปลงทุนหุ้น BANPU ให้ราคาพื้นฐาน 25.6 บาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้นกลุ่ม ปตท.ยังคงลดลงต่อเนื่องกดดัชนีตลาดภาพรวมให้ปรับตัวลง โดยล่าสุดหุ้น PTT ปิดที่ 50.25 บาท ลดลง 1.75 บาท ราคาหุ้นที่ลดลงมีผลต่อดัชนีตลาดภาพรวมติดลบ 4.957 จุด ขณะที่หุ้น PTTEP ปิดที่ 131 บาท ลดลง 9.50 บาท มีผลกดดัชนีตลาดลบ 3.7401 จุด
ส่วนหุ้น PTTGC ปิดที่ 88 บาท ลดลง 3.25 บาท มีผลกดดัชนีตลาดร่วง 1.4532 จุด!!
อินเด็กซ์ 51