ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 เม.ย.61 ปิดที่ 1,771.56 จุด บวก 16.03 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 50,475.43 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 338.52 ล้านบาท
หุ้นที่มูลค่าการซื้อขายสูงสุด BANPU ปิด 19.30 บาท ลบ 0.90 บาท, PTT ปิด 550 บาท บวก 4 บาท, CPALL ปิด 85.50 บาท บวก 2.25 บาท, KTC ปิด 330 บาท บวก 18 บาท และ EA ปิด 34.75 บาท บวก 1.75 บาท
ราคาหุ้น BANPU ร่วงแรงหลังจีนมีมาตรการยกเลิกการนำเข้าถ่านหินบางท่า และราคาถ่านหินชะลอตัว
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ชี้นอกจากประเด็นจีนแล้ว คาดว่ากำไรสุทธิ 1Q18 มีโอกาสขาดทุน ซึ่งเกิดจาก Extra ของค่าใช้จ่าย 2,700 ล้านบาท ในเรื่องคดีความ
แต่กิมเอ็งฯคาดว่า Core operation ยังอยู่ในทิศทางที่ดีในเชิงเทคนิค ภาพเป็นลบ ภายหลังปรับตัวหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 19.60 บาท
ขณะที่ บล.เอเซีย พลัส แนะ “ซื้อ” หุ้น BANPU ให้ราคาเป้าหมาย 25.60 บาท เชื่อราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงเป็นเรื่องของ sentiment เชิงลบต่อกลุ่มถ่านหิน หลังจากเกิดประเด็นข่าวจีนคุมการนำเข้าถ่านหิน โดยระยะสั้นอาจรอให้ราคาหุ้นปรับฐานเรียบร้อยแล้ว จึงหาจังหวะเข้าลงทุน
ปิดท้าย บล.เออีซี แนะสัปดาห์นี้ทยอยสะสมในหุ้น Outper-form อย่างกลุ่มพลังงาน PTT, PTTEP และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ KBANK, SCB, BBL, TMB
และยังคงแนะจับตาหุ้น Domestic Play ที่ยังโตแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก อาทิ HMPRO, CPALL, BJC ขณะที่หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล อาทิ BCH, RJH หุ้นกลุ่มโรงแรม MINT, ERW หุ้นกลุ่มบันเทิง RS, MONO, WORK ยังเป็นหุ้นที่น่าลงทุน
พร้อมทั้งยังแนะจับตาหุ้นที่จ่าย Div. Yield เกิน 3% โดย จะขึ้น XD เม.ย.–พ.ค.นี้ ได้แก่ KKP, AIT, SC, AP, LH!!
อินเด็กซ์ 51