ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมาพันธ์ตลาดหลักทรัพย์โลก (WFE) ครั้งที่ 57 วันที่ 6-8 ก.ย. ปลื้มผู้บริหารสูงสุดตลาดหุ้น สำนักหักบัญชี และตลาด ทุนจากทั่วโลกร่วมงานกว่า 300 คน ชูบทบาทเป็นส่วนสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผลักดันสร้างความโปร่งใสในธุรกิจอย่างยั่งยืน
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การประชุมปีนี้จะเน้นถึงบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ในการเป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนมาขยายธุรกิจได้พบกับผู้ที่ต้องการลงทุน ขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์ ยังให้ความสำคัญต่อการมีบทบาทในการพัฒนาการสร้างความยั่งยืน ความโปร่งใส และความมีธรรมาภิบาลของผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย รวมทั้งยังมีการหยิบยกเรื่องการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในตลาดทุน ขณะที่ในส่วนของมาตรฐานบัญชีซึ่งมีความสำคัญมากนั้น ได้มีการสร้างความตระหนักและมีหลักเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติให้มีมาตรฐาน โดยสำนักหักบัญชีต้องมีความเข้มงวดและโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
“ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับตลาดหลักทรัพย์อาเซียน เพื่อผลักดันให้อาเซียนเป็นแหล่งสินทรัพย์ (Asset class) ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยตลาดหลักทรัพย์อาเซียนได้ร่วมมือกันสร้างผลิตภัณฑ์ในอาเซียนเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน ขณะที่ตลาด หลักทรัพย์ไทยยังได้มุ่งส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งในมิติเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งยกระดับคุณภาพบรรษัทภิบาล (CG) ของภาคธุรกิจไทย เพราะเป็นรากฐานสำคัญในการเติบโตที่ยั่งยืน โดยได้จัดทำมาตรฐานและแนวปฏิบัติในระดับสากล และจากการที่ตลาดหลักทรัพย์ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก UN Sustainable Exchangs (SSF) innitative ตั้งแต่ปี 57 ได้ผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนไทยดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน โดยปัจจุบันมี 14 บริษัทไทยได้รับคัดเลือกให้เข้าสู่ดัชนีแห่งความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) เทียบชั้นบริษัทระดับโลก
นางเกศรากล่าวต่อว่า เพื่อให้สอดคล้องกับตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำในโลก ตลาดหลักทรัพย์ไทยจะเริ่มใช้ระบบการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ ใน 2 วันทำการ (T+2) ตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.61 จากเดิม T+3 ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง และเทียบชั้นกับตลาดหุ้นชั้นนำของโลก
ด้านนางนันดินี สุกุมาร์ ซีอีโอสมาพันธ์ตลาดหลักทรัพย์โลก กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตอกย้ำบทบาทของตลาดหลักทรัพย์และ สำนักหักบัญชีที่ส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจ รวมถึงความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะพัฒนาตลาดทุนทั้งด้านความเป็นธรรม กฎเกณฑ์ ความโปร่งใส และการเป็นกลไกขับเคลื่อนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งนวัตกรรมที่อุตสาหกรรมนี้ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นมา
ทั้งนี้ สมาพันธ์ตลาดหลักทรัพย์นานาชาติมีนโยบายทำงานร่วมกับหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานและนโยบายหน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานภาครัฐทั่วโลก เพื่อสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาด้านความเป็นธรรม โปร่งใส มีเสถียรภาพ และประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาความปลอดภัยและความมั่นคงของระบบการเงินของโลก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและนักลงทุน นอกจากการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ
โดยสมาพันธ์ตลาดหลักทรัพย์นานาชาติเป็นองค์กรกลางระดับโลกของอุตสาหกรรมตลาดหลักทรัพย์ และสำนักหักบัญชี มีสำนักงานกลางอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีสมาชิกกว่า 200 องค์กร โดยมีบริษัทที่จดทะเบียนที่เป็นสมาชิกเกือบ 45,000 บริษัท มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) รวมกว่า 67 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีมูลค่าการซื้อขายรวมต่อปีสูงถึง 84 ล้าน ล้านเหรียญสหรัฐฯ.