"เอเซียพลัส"ฟุ้งต่างชาติรุมจีบหุ้นไทย ปรับพอร์ตลงทุนเพิ่มหลังการเมืองนิ่ง

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

"เอเซียพลัส"ฟุ้งต่างชาติรุมจีบหุ้นไทย ปรับพอร์ตลงทุนเพิ่มหลังการเมืองนิ่ง

Date Time: 1 ก.ย. 2560 08:40 น.

Summary

  • นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า เชื่อว่าเม็ดเงินลงทุนต่างชาติจะยังคงไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้น

Latest

ก.ล.ต. คาดเปิดข้อมูล “จำนำหุ้น” สรุปได้ภายในไตรมาส 1  เผยผู้บริหารบจ. Short หุ้นตัวเองได้

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า เชื่อว่าเม็ดเงินลงทุนต่างชาติจะยังคงไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้น เพราะสถานการณ์การเมืองในประเทศนิ่ง และกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปรับตัวดีขึ้น หลังผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยยังคงคาดการณ์กำไรของ บจ.ปีนี้โตจากปีก่อน 7.5% ขณะที่ราคาหุ้นไทยไม่แพงเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ที่ราคาปรับตัวขึ้นมามากในช่วงที่ผ่านมา แต่ตลาดหุ้นไทยแทบไม่ปรับตัวขึ้น ประกอบกับสภาพคล่องทางการเงินในตลาดโลกยังมีอยู่สูง และมีโอกาสน้อยลงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสิ้นปีนี้ ดังนั้นเอเซียพลัสจึงได้ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยขึ้น

“หุ้นไทยจะค่อยๆดีขึ้น เนื่องจากเงินต่างชาติไหลเข้ามาลงทุน ผลประกอบการ บจ.กำไรดี การเมืองนิ่ง และราคาหุ้นไทยไม่แพงเทียบกับเพื่อนบ้านในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นไทยเยอะ เพราะมีการปรับพอร์ตการลงทุนจากเอเชียเหนือโยกมาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังมีความตึงเครียดและความเสี่ยงมากขึ้นจากการทดลองยิงขีปนาวุธข้ามเกาะฮอกไกโดของเกาหลีเหนือ ขณะที่ต่างชาติถือหุ้นไทยน้อยลง เพราะขายออกไปในช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นโอกาสให้กลับมาซื้อหุ้นคืน อย่างไรก็ตาม ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีการปรับพอร์ตลงทุน โดยเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทย ฮ่องกง และจีนมากขึ้น หลังจากตลาดหุ้นอเมริกาแพงแล้ว โดยหุ้นที่น่าลงทุนคือกลุ่มปิโตรเคมี”

ส่วนธุรกิจอื่นของบริษัท ในส่วนธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ขณะนี้การแข่งขันยังคงรุนแรงโดยเฉพาะการแข่งขันด้านราคา ซึ่งเอเซียพลัสไม่เข้าไปแข่งขัน เห็นได้จากค่าคอมมิชชั่นหรือค่านายหน้าในการซื้อขายของบริษัทครึ่งปีแรกเฉลี่ยอยู่ที่ 0.1769% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม 0.1116% โดยบริษัทหันไปหารายได้ด้านอื่นเพิ่มแทน.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ