นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงอย่างหนัก ส่งผลให้หุ้นหลายตัวราคาถูกลงจนต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี ขณะเดียวกัน บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งยังคงถือเงินสดในมือจำนวนมาก ทำให้เกิดโอกาสสำคัญที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม นั่นคือ “การซื้อหุ้นคืน” ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นราคาหุ้น และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้น
การซื้อหุ้นคืน คือ กระบวนการที่บริษัทจดทะเบียนนำเงินสดไปซื้อหุ้นของตนเองจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งผลให้จำนวนหุ้นที่หมุนเวียนลดลง ซึ่งอาจช่วยเพิ่มผลตอบแทนต่อหุ้นและเสริมความมั่นใจให้กับนักลงทุน
ทั้งนี้ หุ้นที่ถูกซื้อคืน หรือ Treasury Stock จะไม่มีสิทธิออกเสียง ไม่มีสิทธิรับเงินปันผล และไม่นับรวมในการประชุมผู้ถือหุ้น และบริษัทสามารถถือไว้ได้ในระยะเวลาที่กำหนด คือต้องถืออย่างน้อย 6 เดือน และไม่เกิน 3 ปี
หากบริษัทไม่นำหุ้นดังกล่าวกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หรือเสนอขายต่อประชาชน ก็ต้องดำเนินการลดทุนโดยตัดหุ้นที่ซื้อคืนออกจากระบบ
ซึ่งก่อนหน้านี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแนวคิดในการเสนอแก้ข้อกฎหมาย ในพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด เพื่อสนับสนุนโครงการ “ซื้อหุ้นคืน” โดยจะเพื่อยกเลิกข้อจำกัดให้บริษัทจดทะเบียนสามารถดำเนินการได้ง่ายขึ้น
เช่น ยกเลิกเพดานการซื้อหุ้นคืน หรือสามารถทำโครงการใหม่ได้ต่อเนื่อง จากเดิมต้องรอ 6 เดือน ซึ่งจะช่วยทำให้บริษัทต่างๆ มีมูลค่าทางบัญชีดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงพาณิชย์
อย่างไรก็ตาม ดัชนีตลาดหุ้นไทย หรือ SET Index ปรับตัวลดลงมาจากต้นปีแล้วกว่า 213.60 จุด หรือ -15.25% มาอยู่ที่ 1,186.61 (ณ ดัชนีวันที่ 21 มี.ค.68) จากปิดปี 2567 ที่ระดับ 1,400.21 จุด จนทำให้หุ้นหลายตัวอยู่ในโซนที่ถือว่ามีมูลค่าถูกอย่างมาก
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2568 บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่หลายบริษัท เริ่มทยอยประกาศดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืน และซื้อไปแล้วรวมกว่า 4.8 พันล้านบาท เช่น ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น TTB, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น PTT เป็นต้น
ซึ่งหลังจากประกาศโครงการดังกล่าวนั้น จะสังเกตได้ว่าราคาหุ้นมักตอบรับในเชิงบวก ดังนั้น หากนักลงทุนสามารถจับจังหวะการลงทุนได้อย่างถูกต้อง ก็มีโอกาสสร้างกำไรได้ในภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวนเช่นนี้
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า หุ้นใน SET100 ลงมาเร็วและลงมาลึก จากจุดสูงสุดปีที่แล้วเฉลี่ย -34% จนมีหุ้นใน SET100 ถึง 39 ตัว ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (P/BV < 1)
และปัจจุบันเริ่มเห็นการประกาศซื้อหุ้น คือจากหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT และนับตั้งแต่ต้นปี 2568 มีบริษัทต่างๆ ซื้อหุ้นคืนไปแล้ว กว่า 4.8 พันล้านบาท
นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยฯ ทำการค้นหาหุ้นที่มีโอกาสถูกซื้อหุ้นคืน ด้วยเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้
ได้ผลลัพธ์ 20 บริษัท คือ BANPU, EGCO, BGRIM, BCP, RCL, IRPC, TOP, HANA, PTT, CK, CKP, PTTGC, BCPG, GPSC, STGT, SCC, SIRI, SJWD, TU, SCGP เป็นต้น
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้