WHA แถลงข่าวด่วนเช้าวันนี้ (17 มี.ค. 68) ประกาศเลื่อนแผนการนำ WHAID เข้าตลาดหุ้นออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังพิจารณาภาวะตลาดที่ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน โดย "จรีพร จารุกรสกุล" ซีอีโอ WHA ยืนยันว่าการเลื่อนครั้งนี้ไม่กระทบต่อแผนธุรกิจและงบลงทุนของกลุ่มบริษัทยังคงเป้าหมายปี 2568 เดินหน้าตามแผนที่ประกาศไว้ นอกจากนี้ยังมั่นใจผลประกอบการปี 2568 จะทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน จากการขยายธุรกิจทุกกลุ่มทั้งโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัล
จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA กล่าวว่า เรามีการแจ้งข่าวไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ สำหรับการเลื่อนแผนนำ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAID เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังมองว่าภาวะของตลาดหุ้นไทยไม่ดี และยังไม่เห็นภาพว่าจะมีมาตรการที่ชัดเจนอะไรที่จะทำให้ตลาดหุ้นดีขึ้น โดยยังไม่ได้มีกำหนดว่าจะเลื่อนไปถึงเมื่อไร แต่หลังจากการประกาศเลื่อนแล้ว คาดว่าจะยังไม่มีการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในระยะเวลา 2 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม การสปินออฟ WHAID นั้น เป็นผลดีในระยะยาว พร้อมไม่ปิดโอกาสการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ ส่วนแผนการดำเนินงานยังเป็นไปตามปกติและคงเป้าหมายปี 2568 ตามเดิม ส่วนงบลงทุนที่ประกาศไว้ที่ 20,000 ล้านบาทนั้น ไม่ได้รับผลกระทบจากการเลื่อนแผนไอพีโออย่างที่มีกระแสข่าวความกังวล เนื่องจากเชื่อว่ายังสามารถควบคุมอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (Net IBD/Equity Ratio) ได้ต่ำกว่า 1.25 เท่า ขณะที่ภาระหนี้สินส่วนมากในบริษัทเป็นหุ้นกู้
อย่างไรก็ตาม มองว่าสาเหตุที่ตลาดหุ้นไม่ดีนั้น จากที่พูดคุยกับผู้จัดการกองทุน Fund manager หลักๆ คือความมั่นใจเรื่องเศรษฐกิจที่มีการเติบโตต่ำ ประกอบกับเราไม่มีหุ้นเทคโนโลยีที่สร้างความน่าสนใจ และต้องยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีประเด็นลบเรื่องธรรมาภิบาลของบางบริษัท ทำให้กระทบเรื่องความมั่นใจของนักลงทุนด้วย พร้อมมองเรื่องของการ Short sell เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงหนัก
“ตลาดเงินตลาดทุนเป็นเรื่องของความเชื่อมั่น ถ้าเราสามารถสร้างความเชื่อมั่นกลับมา นักลงทุนก็จะกล้าลงทุน” จรีพร กล่าว
นอกจากนี้ จรีพร ยังให้ความมั่นใจว่าจากแนวโน้มธุรกิจของ WHA จะยังสามารถทำผลประกอบการในปี 2568 เป็น All time high ได้เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน จากการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยบริษัทได้วางเป้าหมายของแต่ละธุรกิจ ดังนี้
ธุรกิจโลจิสติกส์ เตรียมขยายธุรกิจโลจิสติกส์ทั้งในไทยและเวียดนาม ตั้งเป้าสร้างโครงการใหม่ประมาณ 200,000 ตารางเมตร ภายในปี 2568 ซึ่งจะทำให้สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการเพิ่มเป็นประมาณ 3,309,000 ตารางเมตร และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 4,297,000 ตารางเมตร ในอีก 5 ปีข้างหน้า
ธุรกิจโมบิลิตี้ (ภายใต้แบรนด์ Mobilix) ปัจจุบันประกอบไปด้วย 3 บริการหลัก ได้แก่ บริการให้เช่ารถยนต์ไฟฟ้า บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และโมบิลิกส์ซอฟต์แวร์โซลูชัน มุ่งเน้นการให้บริการกลุ่มลูกค้า B2B โดยตั้งเป้าจำนวนผู้ใช้บริการรถเช่าสะสมจำนวน 1,700 คันภายในปี 2568 และเป็น 20,000 คัน ภายในปี 2572
ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ยังเติบโตต่อในฐานะผู้นำในตลาดนิคมอุตสาหกรรมของประเทศไทย และเร่งขยายการเติบโตในประเทศเวียดนาม เพื่อดึงดูดนักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มดาต้าเซนเตอร์ และกลุ่มสมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
โดยตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรมในประเทศไทยและประเทศเวียดนามจากทั้งหมด 15 แห่งเป็น 17 แห่งภายในปี 2568 นอกจากนี้ WHAID ตั้งเป้าที่จะพัฒนาที่ดินอุตสาหกรรมในอีก 5 ปีข้างหน้า เพิ่มอีก 12,700 ไร่ รวมเป็น 88,000 ไร่
ล่าสุด WHAID ประกาศเดินหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรม WHA Eastern Seaboard Industrial Estate 5 (WHA ESIE 5) เฟสที่ 1 บนพื้นที่กว่า 4,000 ไร่ ในพื้นที่อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง พร้อมให้นักลงทุนเริ่มเข้าก่อสร้างได้ปลายปี 2568 โดยมุ่งเน้นรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งจะช่วยผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแห่งอนาคตระดับโลก
ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน สำหรับธุรกิจสาธารณูปโภค มุ่งขยายธุรกิจน้ำอุตสาหกรรมและบำบัดน้ำเสียทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม ตั้งเป้ายอดจำหน่ายน้ำและบำบัดน้ำเสียรวมประมาณ 173 ล้านลูกบาศก์เมตรภายในปี 2568 และเพิ่มเป็นประมาณ 280 ล้านลูกบาศก์เมตรในปี 2572 สำหรับธุรกิจพลังงาน ตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเป็น 1,185 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 และเพิ่มเป็นประมาณ 1,600 เมกะวัตต์ในปี 2572
ธุรกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นธุรกิจที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการนำเทคโนโลยีต่างๆ เช่น AI และ IoT มาประยุกต์ใช้ในแต่ละธุรกิจภายในกลุ่มบริษัทฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงาน โดยตั้งเป้าหมายพัฒนา 5 แอปพลิเคชันใหม่ ภายในปี 2568
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/investment
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney
การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล