Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

KTB กำไรปี 67 ที่ 4.38 หมื่นล้าน พุ่ง 19.8% โบรกฯ คาดปี 68 โตอีก หวังสินเชื่อภาครัฐหนุน

Date Time: 22 ม.ค. 2568 10:13 น.

Summary

  • KTB ประกาศกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของธนาคาร) ปี 2567 ที่ 43,856 ล้านบาท เติบโต 19.8% จากปีก่อน โบรกฯ แนะนํา “ซื้อ” คาดปี 2568 ได้ผลบวกจากงบประมาณภาครัฐต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี ขณะที่แนวโน้มกําไรสุทธิคาดเติบโตมากกว่ากลุ่ม

เกาะติดการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนปี 2567 เริ่มด้วยหุ้นกลุ่มธนาคารที่ทยอยรายงานออกมา ล่าสุด ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น KTB ประกาศกำไรสุทธิ  (ส่วนที่เป็นของธนาคาร) ปี 2567 ที่ 43,856 ล้านบาท เติบโต 19.8% จากปีก่อน ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ แนะนํา “ซื้อ” หลังปี 2568 คาดได้ผลบวกจากงบประมาณภาครัฐต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี ขณะที่แนวโน้มกําไรสุทธิคาดเติบโตมากกว่ากลุ่ม


ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น KTB รายงานผลประกอบการปี 2567 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า มีกําไรจากการดําเนินงานเท่ากับ 90,324 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% โดยมีกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของธนาคาร) ที่ 43,856 ล้านบาท เติบโต 19.8% จากปีก่อน

โดยมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีคุณภาพ ดําเนินธุรกิจอย่างระมัดระวังและรอบคอบ พร้อม บริหารจัดการ Portfolio อย่างสมดุล ให้ความสําคัญกับการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ และรักษา Coverage ratio ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ธนาคารมีสินเชื่อที่เติบโต 4.7% ส่วนใหญ่จากการขยายตัวในกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่เป็นกลุ่มยุทธศาสตร์ของธนาคาร และสินเชื่อภาครัฐ รายได้จากการดําเนินงานขยายตัว 6.4% โดยหลักจากค่าธรรมเนียมธุรกิจ Wealth Management และธุรกิจบัตรเครดิต ตามผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารและบริษัทย่อย ผลิตภัณฑ์บริหารความเสี่ยงและการลงทุน และการบริหารพอร์ตเพื่อค้า รวมถึงรายได้จากหนี้สูญรับคืน

ธนาคารบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในองค์รวมอย่างมีประสิทธิภาพ มี Cost to Income ratio อยู่ที่ 43.2% ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการดําเนินงานอื่นๆ ขยายตัวส่วนใหญ่จากการขยายการลงทุนเกี่ยวกับ เทคโนโลยีและดิจิทัลเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อพร้อมรับการเติบโตของอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและนวัตกรรมในอนาคต

ธนาคารบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างระมัดระวังและยืดหยุ่น มีสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ระดับควบคุมได้ดีที่ 95,065 ล้านบาท ลดลง 4.4% จากสิ้นปี 2566 และมี NPLs Ratio 2.99% ลดลงจากสิ้นปี 2566 ให้ความสําคัญกับการ ตั้งสํารองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระดับที่เหมาะสม สอดคล้องกับแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ แม้ลดลง 16.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หากยังคงรักษา Coverage ratio ในระดับสูงที่ 188.6% เพิ่มขึ้นจาก 181.3% จากสิ้นปี เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ รวมถึงความท้าทายจากการขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างไม่ทั่วถึง

ส่งผลให้กําไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร เท่ากับ 43,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3% ถ้าไม่รวมรายการตั้งสํารอง สําหรับลูกค้ารายใหญ่รายหนึ่งและกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันที่มีแนวโน้มของคุณภาพสินเชื่อที่เสื่อมค่าลงที่เกิดขึ้นในไตรมาส 4/66 (กําไรสุทธิเติบโต 19.8% เมื่อเทียบกับปี 2567) ทั้งนี้ผลประกอบการของธนาคารในไตรมาส 4/2567 ได้สะท้อน ผลกระทบของลูกหนี้รายใหญ่รายหนึ่งที่อยู่ระหว่างการดําเนินงานตามแผนฟื้นฟูกิจการและมีการแปลงหนี้เป็นทุนบางส่วนตามแผนฟื้นฟูดังกล่าวแล้ว


ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กําไรสุทธิไตรมาส 4/67 ที่ 1.05 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง 6% จากไตรมาสก่อน ใกล้เคียงกับเราและตลาดคาด โดยกําไรเพิ่มเพราะค่าใช้จ่ายสํารอง (ECL) ลดลง 49% มีการตั้งสํารองสําหรับลูกหนี้รายใหญ่รายหนึ่ง คาดคือ ITD

ด้านคุณภาพสินทรัพย์เป็นทิศทางดี ทั้งค่าใช้จ่ายสํารอง (credit cost) ลดลงเหลือ 102 bps. จากไตรมาส 3/67 ที่ 130 bps. ลูกหนี้ stage 2 ลดลงเหลือ 7.1% จาก 7.6% ในไตรมาส 3/67 หลักๆมาจากการชําระหนี้ของลูกหนี้ดีขึ้น และ NPL Ratio อยู่ที่ 2.99% ลดลงจากไตรมาส 3/67 ที่ 3.14% มองว่าจากการแปลงหนี้เป็นทุนของการบินไทย

ทั้งนี้ คาดกําไรสุทธิปี 2568 ที่ 4.76 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อรวม โดยเฉพาะสินเชื่อภาครัฐ การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม-บริการ และการลดลงของค่าใช้จ่ายสํารอง (credit cost)

อย่างไรก็ตาม คงคําแนะนํา “ซื้อ” และคงราคาเป้าหมายปี 2568 เป็น 24 บาท เพราะเรามอง KTB คาดได้ผลบวกจากงบประมาณภาครัฐต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี ขณะที่แนวโน้มกําไรสุทธิ ปี 2568 คาดเติบโตมากกว่ากลุ่มที่ และมีโอกาสเห็น KTB ปรับเพิ่ม payout ratio จากปัจจุบันที่ราว 30%


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

ขออภัยในความไม่สะดวก ระบบกำลังตรวจสอบการใช้งาน กรุณาลองใหม่อีกครั้ง

Thairath Money

แบบสำรวจพฤติกรรมการลงทุนของคนรุ่นใหม่

รู้จักการ retention สินเชื่อบ้าน หรือไม่

การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)