หุ้นและพันธบัตรเอเชียปรับตัวลงในการซื้อขายช่วงเช้า โดยดัชนีหุ้น MSCI Asia Pacific ลดลงเป็นวันที่สี่ติดต่อกัน โดยปรับตัวลง 1.1% นำโดยหุ้นฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีที่ปรับตัวลดลงมากที่สุดในภูมิภาค ตามหลังหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ แข็งแกร่งเกินคาด โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 154,000 ตำแหน่ง ในขณะที่อัตราว่างงานลดลงสู่ 4.1% จาก 4.2% ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด ทำให้ตลาดลดโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และกดดันฟันด์โฟลว์ในตลาดหุ้นเอเชีย
ล่าสุด Bank of America (BofA) เปิดเผยคาดการณ์ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดนั้นสิ้นสุดลงแล้ว
"ข้อมูลตลาดแรงงานที่ยืดหยุ่น ทำให้ตอนนี้เรามองว่าวงจรการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดสิ้นสุดลงแล้ว โดยอัตราเงินเฟ้อที่อยู่เหนือกรอบเป้าหมาย และความเสี่ยงก็เอียงไปในทางบวก กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่ง เราเห็นเหตุผลเพียงเล็กน้อยที่เฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม"
นอกจากนี้ BofA ยังมองว่ามีโอกาสที่จะเห็นเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้แทน หากดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3% และความคาดหวังด้านเงินเฟ้อในระยะยาวสูงขึ้น
โดยปัจจุบัน เฟดคาดว่าอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงจะอยู่ที่ 3.75%-4% ภายในสิ้นปี 2568 ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณการปรับลด 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% จากเดิมในเดือนกันยายนที่มีการส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 1.00%
ตอนนี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ให้น้ำหนักว่า เฟดอาจลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ ในช่วงไตรมาส3 ปี 2024 การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่น้อยกว่าคาด ผลักดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 8 เบสิสพอยท์ สู่ระดับ 4.76% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2023
ด้าน Torsten Sløk หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Apollo ยังคงมุมมองว่าเฟดมีโอกาส 40% ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ จากเศรษฐกิจกำลังเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อของค่าจ้างที่ยังคงแซงหน้าอัตราเงินเฟ้อด้านราคา ซึ่งหมายความว่ากำลังซื้อที่มากขึ้นของผู้บริโภคสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้แม้ว่าการจ้างงานจะชะลอตัวลงก็ตาม
ที่มา
ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศ กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney