จีน FDI ติดลบ 9 เดือนแรก เงินไหลออก 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ สงครามการค้า ดันทุนนอกย้ายหนี

Economics

World Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

จีน FDI ติดลบ 9 เดือนแรก เงินไหลออก 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ สงครามการค้า ดันทุนนอกย้ายหนี

Date Time: 11 พ.ย. 2567 17:14 น.

Video

บรรยง พงษ์พานิช แกะปมเศรษฐกิจไทยโตต่ำ ฟื้นช้า พร้อมแนะทางออก

Summary

  • จีนยังเหนื่อย มาตรกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ช่วย ต่างชาติย้ายทุนหนีสงครามการค้า-ตัดราคารถ EV เผย 9 เดือนแรก การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(FDI) ติดลบ 13,000 ล้านดอลลาร์

แม้การค้าโลกฟื้น แต่เงินทุนยังไหลออกจากจีนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสำนักงานบริหารการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแห่งชาติจีน หรือ State Administration of Foreign Exchange (SAFE) เปิดเผยว่า ภาระผูกพันการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในไตรมาสที่ 3 ระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคม มูลค่าติดลบ 8,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(2.7 แสนล้านบาท) ทำให้ในช่วง 9 เดือนแรก มูลค่า FDI ติดลบไปแล้ว 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(4.4 แสนล้านบาท)

ในทางกลับกัน มูลค่าการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของจีน (ODI) กลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในไตรมาสที่ 3 บริษัทจีนมีการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(1.1 ล้านล้านบาท) ตามข้อมูลของ SAFE ทำให้ทั้งปีมีกระแสเงินทุนไหลออกสูงถึง 143,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(4.9 ล้านล้านบาท) ซึ่งนับเป็นมูลค่าการไหลออกสูงสุดเป็นอันดับสามนับตั้งแต่มีการบันทึกไว้ในช่วงเวลาดังกล่าว

โดยบริษัทที่ถอนเงินลงทุนบางส่วนออกจากจีนในปีนี้ ได้แก่ นิสสัน มอเตอร์ โค. (Nissan Motor Co.) โฟล์คสวาเกน เอจี (Volkswagen AG) พร้อมด้วยบริษัทอื่น ๆ เช่น โคนิก้า มินอลต้า อิงค์ (Konica Minolta Inc.) นิปปอน สตีล คอร์ป (Nippon Steel Corp.) ที่ประกาศไว้ในเดือนกรกฎาคมว่าจะออกจากกิจการร่วมค้า (Joint Venture) ในจีน ขณะที่ไอบีเอ็ม (IBM) เตรียมปิดหน่วยวิจัยฮาร์ดแวร์ในจีน ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่กระทบต่อพนักงาน 1,000 คน

กระแสเงินทุนที่ไหลออกจากจีนอย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ที่ทยอยประกาศออกมาในเดือนกันยายนทั้งมาตรการสนับสนุนทางการเงินและการคลังนั้นไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติได้ในระยะยาว และส่งผลให้ sentiment ตลาดหุ้นปรับดีขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น

Bloomberg รายงานว่า มาตรการดังกล่าวส่งผลดีต่อนักลงทุนต่างชาติกลุ่มเดียวเท่านั้น โดยมูลค่าหุ้นที่ถือโดยชาวต่างชาติพุ่งสูงขึ้นมากกว่า 26% จากเดือนสิงหาคม ในขณะที่ดัชนีอ้างอิงหุ้นจีนในเดือนกันยายนปรับเพิ่มขึ้นเกือบ 21%

ทั้งนี้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา การลงทุนจากต่างประเทศในจีนลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากแตะระดับสูงสุดในปี 2021 เป็นผลมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ บั่นทอนความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ประกอบกับสภาพแวดล้อมการแข่งขันทางธุรกิจในจีนที่รุนแรงขึ้นในหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งรัฐบาลจีนทุ่มเงินอุดหนุนให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ส่งผลให้ต้นทุนถูกลง จนบริษัทต่างชาติแข่งขันด้านราคาไม่ได้ และปรับตัวไม่ทันจนหลายเจ้าทยอยถอนการลงทุนออกไป

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ดังกล่าวยังดำเนินต่อไปคาดว่าจะทำให้มูลค่า FDI ในปีนี้ไหลออกสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1990

ที่มา

ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศ กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ