“ดอกเบี้ย” ขาลง เรียนรู้จากสหรัฐฯ

Economics

World Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

“ดอกเบี้ย” ขาลง เรียนรู้จากสหรัฐฯ

Date Time: 23 ก.ย. 2567 06:09 น.

Summary

  • เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับคืนวันพุธที่ 18 กันยายนที่สหรัฐอเมริกา มีรายงานข่าวด่วนว่า เดอะ FED หรือธนาคารกลางของสหรัฐฯได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงไป 0.50 เปอร์เซ็นต์

Latest

“มะพร้าวเวียดนาม” มาแรง จ่อชิงส่วนแบ่งตลาดของไทยในจีน หลังจีนเตรียมนำเข้าอย่างเป็นทางการ

เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับคืนวันพุธที่ 18 กันยายนที่สหรัฐอเมริกา มีรายงานข่าวด่วนว่า เดอะ FED หรือธนาคารกลางของสหรัฐฯได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงไป 0.50 เปอร์เซ็นต์

ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของสหรัฐฯลงไปอยู่ที่ร้อยละ 4.5-5.00 เปอร์เซ็นต์...เกินกว่าที่นักวิเคราะห์ทั้งหลายคาดหมายไว้

ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ฟันธงแล้วว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯจะประกาศลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปีอย่างแน่นอน แต่ส่วนใหญ่คาดว่าน่าจะลดแค่ร้อยละ 0.25

ที่ไหนได้ คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งมี 12 คนได้ลงมติ 11-1 ให้ลดเปรี้ยงแรกที่  0.50 เปอร์เซ็นต์ ทันที ดังที่เป็นข่าวคราว

สื่อหลายสำนักของสหรัฐฯใช้ถ้อยคำว่า “Jumbo” rate cut ที่แปลว่าการลดขนาดใหญ่ ขนาดยักษ์ หรืออะไรทำนองนั้น

ท่านด็อกเตอร์ กอบศักดิ์ ภูตระกูล “1 ใน 4 กุมาร” ของพรรค พลังประชารัฐ ยุครุ่งเรือง ซึ่งปัจจุบันหันหลังให้การเมืองเด็ดขาด มาทำงานที่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ตำแหน่งล่าสุดก็คือ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่  ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวของ FED มาตลอด ออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กของท่านทันทีว่า

“ของขวัญ Super-sized Cut สำหรับปีนี้จากเฟด!!!”

พร้อมกับสรุปคำอธิบายของประธาน  FED  เจอโรม  พาวเวลล์ ว่า การลดในอัตรานี้ เพราะมั่นใจว่าสามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อได้... ขณะเดียวกันก็มีหน้าที่จะต้องดูแลไม่ให้ผู้คนตกงานไปมากกว่านี้ จึงพร้อมที่จะดำเนินการในทั้ง 2 เป้าหมาย (เงินเฟ้อ-จ้างงาน) ควบคู่กันไป

คณะกรรมการ FED มั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเดินหน้าไปสู่ Soft Landing ได้ในที่สุด และยืนยันว่ามิได้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือ Recession แต่ประการใด

อธิบายเข้าใจง่ายดี ผมขออนุญาตสรุปมาเผยแพร่ต่อนะครับ

สำหรับปฏิกิริยาของตลาดหุ้นที่สหรัฐฯนั้น วันแรกปิดลบทั้ง 3 ตลาดใหญ่ อาจเป็นเพราะงงกับอัตรา “จัมโบ้” ที่คาดไม่ถึงเลยมองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจริงๆอาจแย่กระมัง ถึงได้ลดมากขนาดนั้น

แต่พอวันรุ่งขึ้น พฤหัสบดีที่ 19 กันยายนบ้านเขา หลังจากกลับไปศึกษารายละเอียดคำพูดของท่านประธานอีกครั้ง ก็พลันเกิดความเชื่อมั่นอย่างใหญ่หลวง และเห็นด้วยกับอัตรา “จัมโบ้” ดังกล่าว

หุ้น ดาวโจนส์ พุ่งพรวด 522 จุด ไปปิดที่ 42,025 จุดทันที ในขณะที่ เอส แอนด์ พี กระฉูด 95 จุด ไปปิดที่ 5,714 จุด และ แนสแด็ก หุ้นไฮเท็ค ก็เด้งขึ้นไปถึง 441 จุด ปิดที่ 18,014 จุด

ล่าสุดปิดตลาดในเย็นวันศุกร์ที่ 20 ก.ย.บ้านเขา หรือเช้าวันเสาร์ที่ 19 ก.ย.บ้านเราแบบบวกบ้างลบบ้างกระจุ๋มกระจิ๋ม เช่น ดาวโจนส์ +38 จุด เอส แอนด์ พี -11 จุด และแนสแด็ก -66 จุด แต่บรรยากาศโดยรวมถือว่าดีมาก เพราะเมื่อคิดเป็นรายสัปดาห์ถือว่าหุ้นขึ้นทั้ง 3 ตลาด

ผมหยิบมาเขียนเล่าในรายละเอียดก็เพราะทุกวันนี้โลกแคบ...ฝนตกบ้านน้องฟ้าร้องบ้านพี่...การลดดอกเบี้ยที่สหรัฐฯย่อมสะเทือนไปทั่วโลก รวมถึงเมืองไทย

นักข่าวบ้านเราจึงไปถามท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยว่า แบบนี้บ้านเราจะต้องลดตามไหม?

ท่านผู้ว่าการตอบอย่างเป็นกลางๆว่า ณ นาทีนี้ยังไม่มีผลกระทบ และทิศทางที่เราดำเนินการอยู่เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยก็เป็นไปอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศเรา

การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของแบงก์ชาติยังเป็นไปตามกำหนดเดิม คือ วันที่ 16 ตุลาคม แต่ถ้าจำเป็นต้องประชุมพิเศษก็สามารถทำได้

ถูกต้องแล้วครับที่ตอบอย่างนี้ เพราะที่สหรัฐฯเขาลด เขาก็บอกว่าเขาดูตามเหตุตามผลและข้อมูลของประเทศเขา...เราเองก็เช่นกัน จะขึ้นจะลดก็ต้องดูตามข้อมูลที่เหมาะสมกับประเทศเรา

ค่อยๆดู ค่อยๆคิด ถูกต้องแล้วครับ ท่านผู้ว่าการ.

"ซูม"

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ