ทุนเมียนมาบุกไทย! เตรียมเปิดแฟรนไชส์ร้านก๋วยเตี๋ยวสาขาแรกปีนี้ หลังปัญหาในประเทศบีบให้รุกตลาดนอก

Yoma Group กลุ่มเชนร้านอาหารสัญชาติเมียนมา เตรียมเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว “YKKO” สาขาแรกในไทย ภายในปีนี้ เร่งเพิ่มสาขาสู่ตลาดร้านอาหารในต่างประเทศ หลังความขัดแย้งในประเทศเมียนมายังคงรุนแรง ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ และประชาชนมากมายอพยพลี้ภัยเข้ามาในประเทศไทย การเปิดร้านในประเทศไทยครั้งนี้ก็เพื่อจะสร้างตลาดใหม่ รองรับคนไทยที่ต้องการลองอาหารเมียนมา และชาวเมียนมาในประเทศไทย

Yoma Strategic Holdings เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดสิงคโปร์ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจ KFC ในเมียนมา เตรียมที่จะขยายตลาดมาเปิดเชนร้านก๋วยเตี๋ยวเมียนมาในห้างไทยเร็วๆ นี้ โดยจะมีเมนูอาหารเป็นก๋วยเตี๋ยวและน้ำซุปรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะเมนูซิกเนเจอร์ของร้านอย่าง Kyay Oh (เจโอ) นอกจากนี้ยังมีเมนูเสียบไม้ และเครื่องดื่มด้วยเช่นกัน

นอกจากเชนร้านอาหารแล้ว Yoma ยังมีธุรกิจในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ยานยนต์ งานบริการลูกค้า และการลงทุน จึงมีแผนที่จะหาช่องทางเพื่อออกจากความขัดแย้งที่เกิดในเมียนมา ด้วยการตีตลาดต่างประเทศ และจดทะเบียนในต่างประเทศ 

แผนของการเข้ามาเปิดร้านในประเทศไทย YKKO ตั้งใจที่จะรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของก๋วยเตี๋ยวเมียนมาไว้ แต่จะมีการปรับรสชาติให้เหมาะสมกับคนในพื้นที่ อีกทั้ง Yoma ยังได้เปิดออฟฟิศเพื่อช่วยซัพพอร์ตการเปิดสาขาใหม่ในไทยอีกด้วย

Yoma ได้เข้าซื้อหุ้น 65% ของร้าน YKKO เมื่อปี 2019 เพื่อเพิ่มเชนร้านอาหารลงไปในกลุ่มธุรกิจของตัวเอง ซึ่งจากข้อมูลถึงสิ้นเดือนมิถุนายนปีนี้ YKKO มีสาขาอยู่ทั้งหมด 37 แห่งในเมียนมา แต่ด้วยความขัดแย้งที่เกิดในประเทศ และจากภาวะเงินเฟ้อทำให้ต้นทุนในการขยายสาขาในประเทศสูงมาก ส่งผลให้ YKKO ปรับกลยุทธ์ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และเปิดสาขาเพิ่มเพียง 2 สาขาในปีนี้

World Bank ได้คาดการณ์สถานการณ์เงินเฟ้อในเมียนมาว่าจะสูงขึ้น 18% ส่งผลให้ราคาสินค้าในประเทศสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน โดย KFC ที่เป็นหนึ่งในเชนร้านอาหารของ Yoma ก็มีการปรับขึ้นราคามาแล้วหลายครั้ง โดยล่าสุด ชุดไก่ทอด 2 ชิ้น เฟรนช์ฟรายส์ และเครื่องดื่ม มีราคาอยู่ที่ 11,000 จัต หรือประมาณ 105 บาท นับว่าเป็นราคาที่สูงที่สุดที่คนส่วนใหญ่ในเมียนมาจะสามารถซื้อได้แล้ว

ในช่วงไตรมาสแรกปี 2024 ยอดขายของ Yoma ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม โตขึ้น 30% มามีมูลค่าที่ 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นรายได้ 14% ของกลุ่มธุรกิจ ตามหลังกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ 50%. 

ที่มา: Nikkei Asia, Yoma, YKKO

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney