ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นกระแสการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์ จากรถยนต์สันดาป ICE ที่ใช้พลังงานน้ำมัน เป็นรถยนต์ BEV ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งนอกจากจะดิสรัปผู้ผลิตรถยนต์ดั้งเดิม ยังส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดใน supply chain โดยเฉพาะจีนที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเกินความต้องการ จนต้องส่งออกไปขายทุ่มตลาดในต่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อกลไกราคาตลาดโลก จนประเทศที่เป็นเจ้าตลาดรถยนต์อย่างกลุ่มประเทศยุโรป สหรัฐฯ ที่ต้องออกมาตรการกำแพงภาษี เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ท้องถิ่น
ล่าสุด John Murphy นักวิเคราะห์จาก Bank of America (BofA) ได้ออกมาเตือน General Motors (GM) และ Ford Motor สองค่ายผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ให้เร่งถอนธุรกิจในจีน เพื่อรักษาเงินทุน ท่ามกลางการแข่งขันอย่างดุเดือดในอุตสาหกรรมยานยนต์จีนที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า
ในระหว่างงานเสวนา Automotive Press Association เพื่อหารือเกี่ยวกับรายงาน “Car Wars” ประจำปีของ BofA ในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน Murphy กล่าวว่า ผมคิดว่าคุณจะต้องเห็น General Motors, Ford Motor and Stellantis ถอนธุรกิจออกจากจีนในเร็วๆ นี้ เนื่องจากจีนไม่ได้เป็นตลาดหลักสำหรับผู้ผลิตรถยนต์เหล่านี้อีกต่อไป
ท่ามกลางสงครามราคารถยนต์ที่ดุเดือด และยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ชะลอตัวลงกว่าคาด เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ Stellantis, Ford และ GM จึงต้องใช้กลยุทธ์ตัดราคา โดยมุ่งเน้นไปที่การลดต้นทุนในทุกภาคส่วนของธุรกิจ Murphy เตือนว่ายักษ์ใหญ่ทั้งสามมีแนวโน้มที่จะต้องใช้มาตรการที่รุนแรงมากขึ้นเพื่อลดต้นทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจรถยนต์สันดาป ซึ่งเป็นแหล่งกำไรหลักในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม Murphy มองว่าเป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะความแข็งแกร่งของผู้ผลิตรถยนต์ท้องถิ่น ทั้งนี้นักวิเคราะห์หลายคนตั้งข้อสังเกตร่วมกันว่า คนจีนมีความภักดีต่อแบรนด์ผลิตรถยนต์ในประเทศสูงมาก และอาจแข็งแกร่งยิ่งขึ้นหลังจากสหรัฐฯ กําหนดมาตรการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนในอัตรา 100% โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาส่วนแบ่งการตลาดของ GM ในประเทศจีน รวมถึงบริษัทร่วมทุน ลดลงเหลือ 8.6% ในปี 2566 จากประมาณ 15% ในช่วงปี 2558 ซึ่งเป็นการลดลงต่ำกว่าระดับ 9% เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2546 ด้านกำไรของ GM ก็ลดลงเช่นกัน โดยลดลง 78.5% จากระดับสูงสุดในปี 2557 ในขณะที่ Ford มียอดขายลดลงตั้งแต่ปี 2559 แต่การส่งออกจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในปี 2565.
อ้างอิง
ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศ กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney