อินเดีย เปิดประตูการค้า ลงนามข้อตกลงทางการค้ากับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) ครั้งใหญ่ที่สุด โดยประเทศในกลุ่มสมาคม ประกอบด้วย สวิตเซอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และลิกเตนสไตน์จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า พร้อมข้อผูกมัดการลงทุนยาว 15 ปี
Asdis Olafsdotti โฆษก EFTA กล่าวว่า ตั้งเป้าเพิ่มการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในอินเดีย 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีแรกของข้อตกลง และอีก 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 5 ปีหลังจากนั้น ด้วยความหวังว่าการลงทุนดังกล่าวจะสามารถสร้างงานได้ 1 ล้านตำแหน่ง
ทั้งนี้ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทในยุโรป เข้าถึงตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ของอินเดียได้ง่ายขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีประชากร 1.4 พันล้านคน เช่น ตลาดอาหารและเครื่องดื่มแปรรูป และเครื่องจักรไฟฟ้า ตลอดจนสินค้าฟุ่มเฟือย
โดยข้อตกลงยกเว้นจัดเก็บภาษีครอบคลุมสัดส่วนการจัดเก็บภาษีมากกว่า 82% และคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 95% ของการส่งออก EFTA
อย่างไรก็ตาม ตลาดสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์นม ถั่วเหลือง ถ่านหิน และ ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ละเอียดอ่อน จะไม่ได้รับการยกเว้นภาษี
การบรรลุข้อตกลงร่วมกันครั้งนี้ คาดว่า จะช่วยกระตุ้นภาคการส่งออกของอินเดียในด้านต่างๆ เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศ บริการทางธุรกิจ และการศึกษา และผลักดันนโยบาย Make in India ที่มุ่งเน้นดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ให้เข้าไปตั้งฐานการผลิตในอินเดีย ยกระดับภาคการผลิต ให้อินเดียบรรลุเป้าหมายเป็นศูนย์กลางการผลิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มคะแนนความนิยมให้ นเรนทรา โมดี ได้ตำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 3 ก่อนช่วงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2567
ทั้งนี้ สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอินเดีย โดยระหว่างปี 2543-2565 และ FDI ในอินเดีย มูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์
อ้างอิง
อ่านข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney