HSBC Holdings หนึ่งในสถาบันทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งเกาะฮ่องกง ตกลงเข้าซื้อธุรกิจลูกค้ารายย่อย (Retail Banking) ในจีนของ Citigroup เพื่อเดินหน้าขยายธุรกิจในเอเชีย
โดยธุรกิจดังกล่าว ประกอบด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) และเงินฝากประมาณ 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.32 แสนล้านบาท) จากลูกค้ามั่งคั่งใน 11 เมืองใหญ่ของจีน
แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยเงื่อนไขของการทำธุรกรรม แต่คาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2567
นับตั้งแต่ HSBC ประกาศถอนตัวออกจากธุรกิจลูกค้ารายย่อย (Retail Banking) ในสหรัฐฯ ตัดขายธุรกิจบางส่วน และลดขนาดธุรกิจประเภทอื่นๆ เพื่อรุกธุรกิจในตลาดเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ HSBC ภายใต้กลยุทธ์ใหม่
ธนาคารได้มุ่งเน้นให้บริการกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่ง และกลุ่มลูกค้าความมั่งคั่งใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าที่มีฐานะมั่งคั่งในจีนแผ่นดินใหญ่มากขึ้น
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ยังได้เข้าซื้อหุ้น 50% ที่เหลือใน HSBC Life China และเปิดตัว บริการ private banking ใน 6 เมืองของจีน ซึ่งจะทำให้ HSBC กลายเป็นผู้นำด้านการบริหารความมั่งคั่งในประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก
สำหรับ Citigroup ก่อนหน้านี้ได้ประกาศแผนการถอนตัวออกจากธุรกิจลูกค้ารายย่อยใน 13 ตลาด ครอบคลุมเอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา โดยขายกิจการส่วนนี้ในครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2564 เพื่อมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าสถาบันที่มีความมั่งคั่งแทน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงกลยุทธ์ระดับโลก
ทำให้ในปี 2565 Citi บรรลุข้อตกลงขายธุรกิจ Retail Banking ใน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ให้กับ UOB รวมถึงยุติการให้บริการลูกค้ารายย่อยในจีน ในปีเดียวกัน