Citigroup Inc. ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของจีนเป็น 5% จากประมาณการเดิมที่ 4.7% สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลจีนในปีนี้ เนื่องจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว ทำให้เศรษฐกิจจีนมีเสถียรภาพมากขึ้น
จากรายงานดัชนียอดค้าปลีก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวดีขึ้น เป็น 4.6% และ 4.5% ตามลำดับ ทำให้นักเศรษฐศาสตร์วิเคราะห์ว่า การหดตัวของการส่งออกอาจปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน หลังจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของประเทศจีน(PMI) ขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
หยู เซียงหรง นักเศรษฐศาสตร์ของ Citigroup กล่าวว่า ในตอนนี้วัฏจักรเศรษฐกิจจีนอยู่จุดต่ำสุดแล้ว ท่ามกลางการจับจ้องว่าอุปสงค์ในประเทศจะปรับตัวขึ้น สอดคล้องกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
แม้ว่าข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจบางภาคส่วนของจีนมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่การฟื้นตัวยังคงไม่มั่นคง ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ ยังแสดงความกังวลต่ออุปสงค์ในประเทศ และความกดดันของตลาดแรงงาน รวมถึงปัญหาการผิดนัดชำระหนี้เรื้อรังในภาคอสังหาริมทรัพย์
ในช่วงวันชาติจีน ซึ่งเป็นวันหยุดยาวสัปดาห์นี้ ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนไปจนถึงวันที่ 6 ตุลาคม ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่นักวิเคราะห์จับตามองอย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณของความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อาจปรับตัวเพิ่มขึ้น
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ พบว่า ในช่วง 3 วันแรกของวันหยุดยาวร้านค้าปลีกและร้านอาหารรายใหญ่ของจีน มียอดขายเพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2565 ซึ่งหลายเมืองในจีนต้องเผชิญกับการล็อกดาวน์ภายใต้มาตรการ zero covid
นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน ยังคาดการณ์ว่า ในช่วงวันหยุดยาวนี้ จะมีจำนวนทริปการท่องเที่ยวภายในประเทศประมาณ 900 ล้านทริป ซึ่งจะทำให้รายได้การท่องเที่ยวภายในประเทศโดยเฉลี่ย เพิ่มขึ้นประมาณ 5% ต่อวัน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2565 ตามรายงานของนักเศรษฐศาสตร์ของ HSBC Holdings Plc
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์บางคน คาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะต้องยกระดับมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ ตามรายงานของ China Real Estate Information Corp พบว่า มูลค่าการขายบ้านใหม่ของบริษัทพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ 100 อันดับแรกของจีน ลดลง 29% ในเดือนกันยายนเมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งปรับตัวดีขึ้นเพียงเล็กน้อยจากการลดลง 34% ในเดือนสิงหาคม
อ้างอิง