เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้นำคณะสื่อมวลชนไทยไปเยือนนครหนานจิง หรือ “นานกิง” ที่คนไทยคุ้นเคย ในมณฑลเจียงซู เพื่อไปเบิ่งการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของจีน
สำหรับ นครหนานจิง เป็นเมืองเอกของมณฑลเจียงซู (และยังเป็นนครใหญ่อันดับสองในภาคตะวันออกของประเทศจีน รองจากมหานครเซี่ยงไฮ้) ตั้งอยู่ทางชายฝั่งทะเลทางตะวันออกของจีน โดยมณฑลนี้ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งข้าวและปลา หมายถึงเป็นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีพื้นที่แหล่งน้ำจืดมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศจีน มีแม่น้ำสายเล็กใหญ่รวมทั้งสิ้น 2,900 กว่าสาย ทั้งยังมีทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ติด 5 อันดับแรกของจีนอยู่ถึง 2 แห่ง
เป็นหนึ่งในนครที่สำคัญที่สุดของจีนมานานกว่าพันปี จัดเป็นหนึ่งในสี่เมืองหลวงโบราณที่ยิ่งใหญ่ของจีน โดยเคยเป็นเมืองหลวงของหลายราชวงศ์ จนได้รับสมญานามว่า “เมืองหลวงสิบแผ่นดิน” รวมทั้งยังเคยเป็นทำเนียบรัฐบาลของ “ซุนยัดเซ็น” และ “เจียงไคเช็ค” ในยุคปฏิวัติจีนอีกด้วย
ที่นครแห่งนี้จึงเป็นศูนย์การเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมในระยะยาวภาคใต้ของประเทศจีน
หนึ่งในสัญลักษณ์ประจำนครหนานจิง ได้แก่ “ปี่เซียะ” สัตว์ในตำนานความเชื่อของชาวจีน ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นเมืองที่แข็งแกร่ง มีพัฒนาการที่มั่นคงยืนยาว รวมถึงความเพิ่มพูนด้านทรัพย์สินเงินทอง และป้องกันคุ้มภัยจากสิ่งชั่วร้าย
ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี จึงถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสี่เขตเศรษฐกิจระดับชาติ นั่นคือ เขตเศรษฐกิจปากน้ำแยงซีเกียง (Yangtze River Delta Economic Integration-YRD) ประกอบด้วย นครเซี่ยงไฮ้ เมือง 9 แห่งในมณฑลเจียงซู (หนึ่งในนั้น คือ นครหนานจิง) เมือง 9 แห่งในมณฑลเจ้อเจียง และเมืองอีก 9 แห่งในมณฑลอานฮุย
สำหรับเขตเศรษฐกิจปากน้ำแยงซี นับเป็นเขตที่มีความเจริญเติบโตมากที่สุดของจีน และเป็นศูนย์กลางการค้า การเงิน และอุตสาหกรรมของจีนตั้งแต่ยุคทศวรรษ 1930 ปัจจุบันมีปริมาณจีดีพีประมาณร้อยละ 25 ของจีน
เมื่อปี 2561 จีนได้กำหนดการพัฒนาไปด้วยกันของเขตเศรษฐกิจปากน้ำแยงซีเป็นยุทธศาสตร์ระดับชาติ
โดยมีเป้าหมายการพัฒนาเชิงยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.เป็นเขตสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจจีน 2. เป็นเขตสาธิตของการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงของจีน 3.เป็นเขตนำร่องการพัฒนาแบบมีความทันสมัยในขั้นพื้นฐาน 4.เป็นเขตสาธิตการพัฒนาไปด้วยกันในระดับภูมิภาค และ 5.เป็นเขตสำคัญนำร่องการปฏิรูปและเปิดประเทศในยุคสมัยใหม่
ปัจจุบันนครหนานจิง เป็นแหล่งผลิตอุตสาหกรรมที่สำคัญหลายอย่าง รวมทั้งปิโตรเคมี การผลิตรถยนต์และเหล็กกล้า ทั้งยังได้มีการสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ เช่น ซอฟต์แวร์และบริการเอาต์ซอร์ส สมาร์ตกริด (ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ) และการขนส่งทางรถไฟ เป็นต้น
ทั้งยังเป็นหนึ่งในแหล่งสำคัญทางการเกษตรและธัญพืชของจีน โดยมีพืชหลักทางเศรษฐกิจสำคัญ อาทิ เรปซีด (Rapeseed) ใช้ทำน้ำมัน ฝ้าย รังไหม กัญชา ชา ไม้ไผ่ ผลไม้ และยาสมุนไพร
เนื่องจากหนานจิงอยู่สองด้านของแม่น้ำแยงซี คุณภาพน้ำอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นหนึ่งในแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญของประเทศจีน
ปัจจุบันนครหนานจิง เป็น 1 ใน 26 เมืองรองที่จีนให้ความสำคัญในการยกระดับการพัฒนาให้รุดหน้า นอกเหนือจากการพัฒนา 4 เมืองหลักที่รุดหน้าไปไกลแล้วคือ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเซินเจิ้น
ด้วยการที่นครหนานจิงมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทั้งด้านวัตถุดิบ ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรมนุษย์ เพราะที่นครหนานจิงยังได้ชื่อว่ามีสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศอยู่หลายแห่ง ทำให้นครหนานจิงยังมีโอกาสก้าวทะยานไปได้อีกไกล
ล่าสุดทางการจีนก็ได้มีการส่งเสริมอย่างต่อเนื่องเพื่อชูบทบาทความสำคัญของนครหนานจิงให้เป็นหนึ่งในแกนหลักของเขตเศรษฐกิจปากน้ำแยงซี จึงได้มีการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานรวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง
อย่างเช่น ได้มีการสร้างรถไฟความเร็วสูงเพิ่มอีกเส้นทาง มีกำหนดเปิดในเดือน ก.ย.นี้ โดยเป็นรถไฟความเร็วสูงสายใหม่ วิ่งได้เร็วถึง 385 กม./ชม. เลียบแม่น้ำแยงซี เชื่อมมหานครเซี่ยงไฮ้ และนครหนานจิง โดยจะผ่านเขตเศรษฐกิจปากน้ำแยงซีเกียง ประกอบด้วย 1 เมือง 3 มณฑล ได้แก่ นครเซี่ยงไฮ้ มณฑลเจียงซู มณฑลเจ้อเจียง และมณฑลอานฮุย ซึ่งเป็น 1 ใน 3 คลัสเตอร์เมืองขนาดใหญ่ของจีน เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ รวมถึงด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมสูงที่สุดในจีน
จึงอย่าแปลกใจที่เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ปธน. สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้ใช้เวลาหลายวันอยู่ที่นครหนานจิงเพื่อติดตามความคืบหน้าในการพัฒนานครหนานจิงให้เป็นหนึ่งในเสาหลักทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของประเทศจีน.
เจริญสุข ลิมป์บรรจงกิจ