หลังการประชุมหารือเพื่อปลดล็อกเพดานหนี้สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 16 พฤษาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และผู้นำสภาคองเกรส เผย มีมุมมองบวกในการบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ร่วมกัน
โดยประธานาธิบดี Joe Biden เปิดเผยว่า ในการประชุมเมื่อวันอังคารผู้นำสภาคองเกรส มีฉันทามติร่วมกันว่าการผิดนัดชำระหนี้ไม่ใช่ทางเลือกในการแก้ปัญหา และยังมีสิ่งที่ต้องจัดการอีกมากเพื่อบรรลุข้อตกลง ในขณะที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร Kevin McCarthy ให้ความเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถบรรลุข้อตกลงภายในสิ้นสัปดาห์นี้
Biden ยังประกาศด้วยว่าเขาได้ยกเลิกแผนการเยือนประเทศออสเตรเลีย และปาปัวนิวกินี และเดินทางกลับสหรัฐฯ ทันทีหลังจบการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก 7 ประเทศ หรือ G7 (Group of Seven) ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเดินทางกลับมาเจรจาบรรลุข้อตกลงปัญหาเพดานหนี้กับผู้นำสภาคองเกรสในสัปดาห์หน้าโดยในระหว่างการปฏิบัติภารกิจที่ญี่ปุ่น Biden มีแผนที่จะประชุมทางไกลเพื่อติดตามสถานการณ์กับผู้นำสภาคองเกรส
นอกจากนี้ ประธานาธิบดียังได้มอบหมายให้ Steve Ricchetti ที่ปรึกษาอาวุโสของทำเนียบขาว และ Shalanda Young ผู้อำนวยการฝ่ายงบประมาณ เป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต ในการเจรจาระดับเจ้าหน้าที่ เพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างที่ประธานาธิบดีปฏิบัติภารกิจที่ญี่ปุ่น ในขณะที่ Garret Graves สมาชิกผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนฝั่งพรรครีพับลิกัน
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่อาจทำให้สหรัฐฯ ไม่ต้องผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิถุนายน ตามคำเตือนของรัฐมนตรีคลัง Janet Yellen หลังจากที่การประชุมครั้งก่อน ประธานาธิบดี Joe Biden ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของประธานสภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับการเพิ่มคุณสมบัติผู้มีสิทธิในโครงการ Medicaid ซึ่งเป็นโครงการครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้มีรายได้น้อย เพื่อลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล และจัดลำดับความสำคัญในการใช้งบประมาณ