รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศอุดหนุนเงินทุนจำนวน 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์หรือ 1.36 ล้านล้านบาท แก่ผู้ผลิตสหรัฐฯ พร้อมมาตรการสนับสนุนด้วยเครดิตภาษีการลงทุน 25% สำหรับการสร้างโรงงานผลิตและประกอบชิ้นส่วนชิปเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ
การประกาศทุนอุดหนุนครั้งนี้ สืบเนื่องหลังประกาศร่างกฎหมายพระราชบัญญัติชิปและวิทยาศาสตร์ (CHIPS and Science Act) จัดตั้งงบประมาณจำนวน 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนเศรษฐกิจที่จะลงทุนในสหรัฐฯ เพื่อกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชนในอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ สร้างเงินหมุนเวียนและการจ้างงานมากขึ้นในประเทศ
เดิมทีสหรัฐฯ มอบหมายให้บริษัทจีนและไต้หวันเป็นผู้ผลิตและประกอบชิ้นส่วนชิปเซมิคอนดักเตอร์เป็นหลัก กฎหมายดังกล่าวจะช่วยลดการพึ่งพาการผลิตจากต่างประเทศ ดึงดูดผู้ผลิตในประเทศและต่างประเทศมาลงทุนและสร้างให้อุตสาหกรรมสำคัญของสหรัฐฯ ขึ้นสู่แนวหน้าเพื่อต่อกรกับจีนในตลาดโลก
บริษัทที่ต้องการรับเงินทุน ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด คือ ห้ามมีส่วนร่วมในการวิจัยร่วมกันหรือมีความพยายามจะออกใบอนุญาตทางเทคโนโลยีกับหน่วยงานต่างประเทศ ไม่สามารถลงทุนใหม่หรือขยายกำลังการผลิตในจีนเป็นเวลา 10 ปี เพื่อให้แน่ใจว่าเงินภาษีของผู้เสียภาษีสหรัฐฯ จะไม่นำไปใช้ในการดำเนินงานก่อสร้างในจีน
นอกจากนี้บริษัทรับที่ได้รับเงินทุนโดยตรงมากกว่า 150 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป จะต้องแบ่งปันผลกำไรหรือกระแสเงินสดใดๆ ที่เกินคาดการณ์จากที่ตกลงร่วมกันให้กับรัฐบาล และห้ามผู้ผลิตซื้อหุ้นบริษัทคืนภายใน 5 ปีหลังรับเงินทุน และบริษัทยังต้องส่งเสริมการอบรมและสร้างทักษะวิศกรรมขั้นสูงให้คนงานชาวอเมริกัน
ที่ผ่านมามีผู้ผลิตสหรัฐฯ อย่าง Intel, Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) และ Samsung Electronics, Micron Technology สร้างโครงการใหม่รวมทั้งสิ้นกว่า 40 โครงการทั้งในแอริโซนา เท็กซัส โอไฮโอ นิวยอร์ก และรัฐอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้คาดการณ์การประเทศเพิ่มงบสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาอีกสิบล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้.
อ้างอิงข้อมูล nist.gov