นายบัญญัติ คำนูณวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจร้าน “เซเว่น อีเลฟเว่น” ในเครือซีพี กล่าวถึงการรับมือหลัง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ร้านเซเว่นที่มีสาขาอยู่ 10,000 สาขา ทั้งสาขาที่ลงทุนเอง 45% และสาขาแฟรนไชส์หรือ Store Business Partner 55% พร้อมปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ โดยได้เตรียมพร้อมตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมาแล้ว โดยนำบุหรี่ออกจากชั้นวางสินค้าบริเวณด้านหลังเคาน์เตอร์คิดเงิน ที่เดิมมีแผ่นปิดเพื่อให้ลูกค้ามองไม่เห็นสินค้าอยู่แล้ว เอาไว้ใต้เคาน์เตอร์ชั่วคราว พร้อมติดป้ายในบริเวณที่ขายบุหรี่เดิมให้ลูกค้าเห็นชัดว่าไม่วางขายสินค้าประเภทดังกล่าว พร้อมให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับพนักงาน หากมีลูกค้าสอบถามให้ตอบว่าขณะนี้กำลังหาพื้นที่วางสินค้าที่เหมาะสมอยู่
“ส่วนการห้ามขายบุหรี่กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และการแบ่งขายเป็นตัวๆนั้น ที่ผ่านมาไม่มีการขายให้อยู่แล้ว ขณะที่การไม่วางขายบุหรี่บนชั้นวางสินค้า จะส่งผลกระทบกับยอดขายหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะเพิ่งเริ่มดำเนินการ”
ด้านร้านแฟมิลี่มาร์ท ร้านสะดวกซื้อในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ปนั้น ผู้บริหารชี้แจงว่าพร้อมปฏิบัติตามกฎหมายใหม่อย่างเคร่งครัด โดยขณะนี้ได้ทำแผ่นอะคริลิกปิดบริเวณชั้นวางบุหรี่เดิมที่อยู่หลังเคาน์เตอร์คิดเงินเพิ่มเป็น 3 สเต็ป คือ เพิ่มปิดเฉพาะช่องในแต่ละช่องที่วางซองบุหรี่ จากเดิมปิด 2 สเต็ป คือ ปิดในแต่ละชั้นวาง และปิดรวมทั้งแผง เพื่อไม่ให้ลูกค้ามองเห็นสินค้า ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับกฎหมายดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.แล้วในทุกสาขา ทั้ง 1,150 สาขาทั่วประเทศ.