'อภิรดี' สั่งปรับมาตรการดูแลราคาสินค้าใหม่ ป้องกันผู้ผลิตใช้เล่ห์เหลี่ยม ลดขนาดขายราคาเดิม ป้องกันผู้บริโภคถูกเอาเปรียบ ด้านกรมการค้าภายใน เตรียมหารือผู้ผลิต-ห้าง หาเหตุลดไซส์ขายราคาเดิม พร้อมหามาตรการจัดการ
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในตรวจสอบมาตรการดูแลราคาสินค้าในปัจจุบันว่ารัดกุม เหมาะสม สามารถควบคุมดูแลราคาสินค้าได้เป็นอย่างดีหรือไม่ และติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าทุกรายการเป็นอย่างไร ทั้งสินค้าและบริการที่อยู่ในบัญชีควบคุม 47 รายการ และสินค้าที่อยู่ในบัญชีติดตามดูแล 205 รายการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค จนทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น
“ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในประชุมผู้ผลิต และห้างค้าส่งค้าปลีกสมัยใหม่ วันที่ 9 พ.ค. เพื่อหารือสถานการณ์ราคาสินค้า ปัญหาที่เกิดขึ้น หลังมีข่าวผู้ผลิตปรับลดน้ำหนักสินค้า ลดขนาดบรรจุภัณฑ์แต่ยังขายราคาเดิม โดยให้ตรวจสอบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และหามาตรการดูแล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก เพราะถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค”
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า กรมการค้าภายในเชิญประชุมผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค 5-6 ราย เช่น ยูนิลีเวอร์, พีแอนด์จี, คอลเกตปาล์มโอลีฟ, เครือสหพัฒน์ เป็นต้น รวมทั้งห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ อย่างบิ๊กซี, แม็คโคร และเทสโก้ โลตัส เพื่อมาหารือโครงสร้างราคาสินค้า และการปรับลดขนาดสินค้าลงมีความเหมาะสมหรือไม่ หลังพบว่า ผู้ผลิตได้ปรับราคาสินค้าทางอ้อม โดยลดปริมาณสินค้า แต่ยังคงตั้งราคาจำหน่ายเท่าเดิม
โดยสินค้าที่ผู้ผลิตมีพฤติกรรมลดขนาดสินค้า แต่ขายราคาเดิม เช่น ครีมอาบน้ำ ผลิตภัณฑ์ซักผ้าชนิดน้ำ ซึ่งอยู่ในบัญชีสินค้า ที่กรมการค้าภายในติดตามดูแล 205 รายการ ไม่ได้อยู่ในบัญชีสินค้าควบคุม ที่ผู้ประกอบการต้องขออนุญาตก่อนปรับขึ้นราคา โดยผู้ผลิตสินค้า แจ้งว่า ราคาขายปัจจุบัน ไม่เกินจากเพดานราคาที่แจ้งให้กรมการค้าภายในทราบ สำหรับสินค้าอื่น เช่น สบู่ ผงซักฟอก ยาสีฟัน แชมพูสระผม กระเบื้อง สังกะสี เหล็กเส้น น้ำมันพืช นมสด ซึ่งกรมการค้าภายใน กำหนดให้ผู้ประกอบการแจ้งให้กรมทราบก่อนการปรับขึ้นราคา แต่ไม่ต้องขออนุญาต
“การที่ต้องเชิญห้างมาหารือด้วย เพราะเป็นกลไกกำหนดราคาสินค้าส่วนหนึ่ง เช่น การจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายของห้าง จะทำให้ราคาสินค้าถูกลงกว่าปกติ แต่เมื่อเลิกจัดแล้ว ราคาจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และอาจทำให้ผู้บริโภคคิดว่า ราคาสินค้าปรับขึ้นได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมครั้งนี้ แนวทางที่กระทรวงพาณิชย์จะนำมาใช้ดูแลราคาสินค้า นอกจากจะขอความร่วมมือผู้ผลิตให้แจ้งการปรับขึ้นราคา ซึ่งเป็นมาตรการเดิม อาจจะขอให้เพิ่มการแจ้งรายการสินค้าที่ปรับลดน้ำหนักด้วย ซึ่งหากกรมเห็นว่าสมเหตุสมผล จะอนุมัติให้ดำเนินการได้ แต่หากไม่สมเหตุสมผล ผู้ผลิตต้องชี้แจงว่าการลดขนาดสินค้า มีสาเหตุมาจากอะไร หากไม่ดำเนินการ จะใช้มาตรการทางกฎหมาย เช่น การขึ้นบัญชีเป็นสินค้าควบคุม เพื่อที่จะมีมาตรการออกมาดูแลต่อไป