นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ ททท.หารือกับผู้บริหารการท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม ได้ข้อสรุปว่า ทั้งสองฝ่ายจะมีความตกลงในการส่งเสริมให้เกิดการขายแพ็กเกจทัวร์เชื่อมโยง 2 ประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้แนวคิด 2 ประเทศ 1 จุดหมาย เพื่อสร้างจุดแข็ง ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากนอกภูมิภาค โดยเฉพาะตลาดระยะไกลที่เข้ามาเที่ยวในไทยเป็นหลักแล้ว ยังเห็นแนวโน้มเดินทางไปยังเวียดนามสูงขึ้น เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความแปลกใหม่ที่รัฐบาลส่งเสริมการกระจายแหล่งท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ทำให้มีพื้นที่ใหม่ๆดึงดูดนักลงทุน เช่น ดานัง ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท.กล่าวว่า เวียดนามมีการพัฒนาศักยภาพของตลาดท่องเที่ยวของตนเอง ในฐานะดาวรุ่งของอาเซียนมีพร้อมหลายๆด้าน เช่น มีการบังคับใช้กฎหมายและควบคุมระเบียบต่างๆที่เอื้อต่อการท่องเที่ยว เริ่มตั้งแต่การมีสนามบินนานาชาติทั้งในเมืองหลักและเมืองรอง ซึ่งสายการบินต่างชาติก็เริ่มเปิดเส้นทางบินตรงเพิ่มขึ้น มีการเตรียมมัคคุเทศก์ภาษาอังกฤษที่มีใบอนุญาตไว้รองรับ 500,000 คน และบริษัท ปิกัส จำกัดซึ่งเป็นธุรกิจทัวร์รายใหญ่จากรัสเซีย ที่เริ่มนำนักท่องเที่ยวรัสเซียมาเที่ยวเวียดนามเพิ่มขึ้น แจ้งว่ากำลังจะเปิดตลาดใหม่ ด้วยการนำนักท่องเที่ยวเวียดนามมาเที่ยวเมืองไทยให้เพิ่มขึ้น
นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท.กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยวทั้ง คนเวียดนามและต่างชาติที่เดินทางจากเวียดนามเข้ามาในไทย มีแนวโน้มเติบโตที่สุดแห่งหนึ่งของอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียลส์ (คนรุ่นใหม่) ที่นิยมท่องเที่ยวต่างประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ที่นำมาแบ่งปันในสังคมออนไลน์ด้วย ซึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวเอเชีย แม้ว่าตลาดมิลเลนเนียลส์จะเติบโตแรง แต่ในด้านกำลังซื้อจะยังไม่สูงเท่า เจเนอเรชั่นเอ็กซ์ และเบบี้บูมเมอร์ จึงสอดคล้องกับการนำเสนอไทยให้เป็นจุดหมายให้กับคนรุ่นใหม่ของเวียดนาม เนื่องจากตอบโจทย์เรื่องได้เดินทางต่างประเทศ แต่ยังคงอยู่ในงบประมาณที่จับจ่ายได้ และเวียดนามยังเสนอให้มีการเปิดเส้นทางบินเชื่อมต่อถึงเชียงใหม่เพิ่มขึ้น เพราะจังหวัดต่างๆของไทยมีศักยภาพในการดึงตลาดนักท่องเที่ยวยุโรปเข้ามา จึงต้องการนำนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทยไปเยือนเวียดนามเป็นการแลกเปลี่ยน.