นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีการนำเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต และเหล็กข้ออ้อยที่ไม่ได้มาตรฐานมาจำหน่ายในท้องตลาด จึงได้ส่ง “ชุดตรวจการณ์สุดซอย” กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายนนทิชัย ลิขิตาภรณ์ ผู้อำนวยการกองตรวจการมาตรฐาน 1 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และเจ้าหน้าที่ สมอ. เข้าตรวจสอบบริษัทแห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ได้ขยายผลมาจากการโฆษณาขายเหล็กเส้นบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในราคาถูกกว่าความเป็นจริง ซึ่งได้พบว่ามีการผลิตเหล็กเส้นที่ไม่ได้มาตรฐานคุณภาพมาตรฐานตามข้อร้องเรียน
“เจ้าหน้าที่ สมอ.อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 แห่ง พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบภายในโรงงาน และโกดังสินค้า สามารถยึดอายัดเหล็กเส้นที่ไม่ได้มาตรฐานน้ำหนักมากกว่า 10,000 ตัน มีมูลค่ามากกว่า 200 ล้านบาท พร้อมสั่งให้บริษัทดังกล่าวเรียกคืนสินค้าที่จำหน่ายไปกลับคืนมา พร้อมกับการสั่งดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป”
ทั้งนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เหล็กเส้นที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้ เป็นส่วนประกอบสำคัญทั้งเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต เหล็กข้ออ้อย ที่ใช้ในการหล่อเป็นตัวเสา หรือตัวคาน สำหรับงานก่อสร้างอาคาร คอนโดมิเนียม ถนนคอนกรีต และสะพาน ซึ่งล้วนแล้วแต่สุ่มเสี่ยงให้เกิดโศกนาฏกรรมร้ายแรงกับพี่น้องประชาชน จึงต้องเร่งจับกุมปราบปราม และบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด รวมทั้งในส่วนของแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ปล่อยให้มีการโฆษณาขายสินค้าไม่ได้มาตรฐานก็จะถูกดำเนินคดีด้วย เพราะถือว่ามีความผิดในฐานะผู้โฆษณา และร่วมจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน มีโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และขอความร่วมมือแพลตฟอร์มออนไลน์ช่วยตรวจสอบบัญชีผู้ใช้ที่ขายของบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างเคร่งครัด
โดยผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆสามารถประสานมายัง สมอ.ในการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อการตรวจสอบสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน โดยศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของ สมอ. พร้อมให้คำแนะนำและบริการ เพื่อให้ผู้บริการต่างๆและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็ว และเชื่อถือได้จาก สมอ.
ด้าน น.ส.ฐิติภัสร์กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า บริษัทคนไทยที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แห่งนี้จดทะเบียนเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องกับทางสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) แต่กลับผลิตสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน และแสดงเครื่องหมายมาตรฐานกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานเพื่อจำหน่าย โดยทราบว่าได้รับการว่าจ้างจากกลุ่มนายทุนชาวจีน ชื่อบริษัท เวล เอสทาบลิช จำกัด โดยนายเย้ โยวหลิน ให้ผลิตเหล็กเส้นที่ไม่ได้มาตรฐานเพื่อจำหน่ายในประเทศไทย
ทั้งนี้ โทษฐานกระทำความผิดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ. มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และฝ่าฝืนมาตรา 35 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และฝ่าฝืนมาตรา 36 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ภารกิจสุดซอยครั้งนี้มีการยกระดับความเข้มข้นขึ้น ไม่เพียงตรวจจับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานเพียงอย่างเดียว แต่ยังบูรณาการความร่วมมือจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เข้าตรวจสอบโรงงานในเรื่องของการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายโรงงาน และกฎหมายการนิคมฯหรือไม่ และจากการตรวจสอบพบว่า โรงงานแห่งนี้มีการประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีความผิดตามมาตรา 8 พ.ร.บ.โรงงาน จึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป”.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่