นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวามนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ นโยบายการเงินนำประเทศ รับมือบริบทโลกใหม่" ว่า สิ่งที่โลกกำลังต้องเผชิญไม่ใช่ความเสี่ยง (Risk) แต่เป็นเรื่องของความไม่แน่นอน (Uncertain) เพราะแม้ว่าจะคาดเดาได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแต่การบริหารจัดการได้ยาก เพราะในความเสี่ยงที่จะเกิดก็ยังไม่มีความไม่แน่นอนอยู่ด้วย ซึ่งส่งผลต่อกการดูแลเงินเฟ้อ และการทำนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจยากขึ้น
“ประเทศไทยจะต้องเน้นมากกว่าเสถียรภาพ แต่จะต้องทำให้เศรษฐกิจมีความทนทาน ยืดหยุ่น และมีภูมิคุ้มกัน ดังนั้น นโยบายการเงินจะต้องเป็นนโยบายที่อาจจะไม่ได้ดีที่สุดกับสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง แต่เหมาะสมกับทุกสถานการณ์พร้อมๆ กัน โดยใช้การมองแบบไปข้างหน้าแทนการยึดกับตัวเลขที่เกิดขึ้นเดี๋ยวนั้น เพื่อไม่ให้นโยบายเป๋ไปมา โดยในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ คลัง ธปท. และธนาคารพาณิชย์ จะมีการประกาศมาตรการแก้หนี้ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยเพิ่มเติมเพื่อลดการเกิดหนี้ครัวเรือนและช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหา”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการแก้หนี้ดังกล่าว จะช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหาผ่อนส่งหนี้ โดยเฉพาะลูกหนี้เอสเอ็มอีสินเชื่อไม่เกิน 3 ล้านบาท ลูกหนี้ที่มีสินเชื่อบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท และสินเชื่อเช้าซื้อรถยนต์ไม่เกิน 80,000 บาท
ด้านนางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า ธปท. ได้กำชับให้สถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยที่มิใช่สถาบันการเงิน พิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นในเขตภาคใต้โดยเร่งด่วน โดย ธปท. ได้มีแนวทางปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำสำหรับบัตรเครดิตให้ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ 8% การเพิ่มวงเงินชั่วคราวกรณีฉุกเฉินและถึงการให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนและสภาพคล่องเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือเพื่อให้ประกอบอาชีพต่อได้