นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า หนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการ คือ การเร่งจบปัญหามิจฉาชีพ หรือบัญชีม้านิติบุคคล เพื่อป้องกันมิจฉาชีพใช้ช่องทางนิติบุคคลหลอกลวงประชาชน ดังนั้น กรมจึงออกมาตรการป้องปรามการจดทะเบียนบริษัทที่อาจนำไปสู่การกระทำความผิดทางกฎหมายใน 7 ด้าน คือ 1.แลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคลเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการสืบสวน สอบสวนและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด 2.ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบสถานที่ตั้งนิติบุคคล 3.ลงพื้นที่ตรวจสอบ สืบสวน สอบสวน และจับกุมผู้กระทำความผิด
4.นำเทคโนโลยีมาช่วยวิเคราะห์แนวโน้มพฤติกรรมของนิติบุคคลที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจตามกฎหมาย หรือระบบ IBAS ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ 5.เพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณารับจดทะเบียนนิติบุคคลโดยเฉพาะธุรกิจกลุ่มเสี่ยง 6.กรณีร้านค้าออนไลน์ ประชาชนสามารถตรวจสอบความมีตัวตนของร้านได้ผ่านเว็บไซต์ www.trustmarkthai.com และ 7.สร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบธุรกิจให้ดำเนินธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงการตรวจสอบความมีตัวตนของนิติบุคคลก่อนจะทำการลงทุนใดๆ
นางอรมน กล่าวต่อว่า มาตรการการป้องปรามนี้ ทำให้ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำผิดในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ และกรมร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แถลงข่าวผลจับกุมผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 18 พ.ย.67 ซึ่งกรมช่วยเชื่อมโยงและให้ข้อมูลนิติบุคคลเชิงลึกแก่ตำรวจ โดยกสทช.ตรวจพบความผิดปกติของการใช้งานกลุ่มหมายเลขโทรศัพท์ขึ้นต้นด้วย 02 นับหมื่นเลขหมาย และมีการใช้งานผิดปกติของนิติบุคคล 3 ราย ที่ทำธุรกิจจัดทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ ให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการ และให้คำปรึกษาด้านซอฟต์แวร์ ซึ่งได้ดำเนินธุรกิจลักษณะอุปกรณ์ตู้สาขาแบบ SIP Server (โทรศัพท์คอลเซ็นเตอร์)
“จากกรณีดังกล่าว ช่วงเดือนต.ค.67 ตำรวจได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่ของกรม และต่อมาได้สืบสวนพบว่า นิติบุคคล 3 รายนี้ นำชุดหมายเลขโทรศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วย 02 มาใช้โทรหลอกลวงผู้เสียหาย หรือกระทำผิดในรูปแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมกับติดตามจับกุมผู้กระทำผิด จากความร่วมมือนี้ ต่อไปมิจฉาชีพจะใช้การจดทะเบียนนิติบุคคลมาหลอกลวงประชาชนได้ยากขึ้น”