ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด คือ นายจำเริญ โพธิยอด อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ กรณีซื้อหุ้นบมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน โดยให้ผู้กระทำความผิดชำระค่าปรับเป็นเงิน 2.62 ล้านบาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลา 12 เดือน
ทั้งนี้ ก.ล.ต. รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเดือนมี.ค.66 และตรวจสอบเพิ่มเติม พบการกระทำเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับการซื้อหุ้นโดยรู้หรือครอบครองข้อมูลภายในของ นายจำเริญ ซึ่งขณะนั้นเป็นกรรมการของ BCP ได้ล่วงรู้ข้อมูลภายในเกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นบมจ. เอสโซ่ (ประเทศไทย) และทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของเอสโซ่ จากการทำหน้าที่คณะกรรมการ(บอร์ด) บางจากเมื่อ วันที่ 16 ธ.ค.65 ภายหลังการล่วงรู้ข้อมูลภายใน นายจำเริญได้ซื้อหุ้น BCP ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเองเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.65 จำนวน 300,000 หุ้น ก่อนที่ BCP จะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการที่ BCP จะเข้าซื้อหุ้น ESSO และทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของเอสโซ่ ต่อตลาดหลักทรัพย์ วันที่ 12 ม.ค.66 ทำให้นายจำเริญได้รับผลประโยชน์จากมูลค่าหุ้น BCP ที่มีราคาเพิ่มขึ้น ซึ่งการกระทำของนายจำเริญข้างต้น เป็นการซื้อหุ้น BCP โดยรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน อันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯปี35 คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ลงโทษทางแพ่ง ให้ชดใช้เงินจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ,ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. ในการตรวจสอบการกระทำความผิดดังกล่าว