“สุริยะ” สั่ง “วีริศ” ผู้ว่าการ รฟท.คนใหม่ ปิดจ๊อบสร้างรถไฟทางคู่เฟส 2 มูลค่า 298,060 ล้านบาท และรถไฟความเร็วสูงไทย–จีน ช่วงโคราช–หนองคาย มูลค่าการลงทุน 341,351 ล้านให้ได้ภายในไตรมาส 1 ปี 68 ฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีนครบ 50 ปี
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ ครม.ได้มีมติให้นายวีริศ อัมระปาล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คนใหม่นั้น ต้นเดือน ต.ค.ตนจะไปมอบนโยบายที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยผู้ว่าการ รฟท.คนใหม่ จะต้องหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้สินสะสมที่ รฟท.มีอยู่กว่า 230,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันเพื่อให้การทำงานสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในระบบราง เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากถนนมาเป็นระบบราง ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ตนจึงมีนโยบายที่จะให้ รฟท.เร่งเดินหน้าประกวดราคาหาเอกชนเข้ามาก่อสร้างในโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 6 เส้นทาง มูลค่า 298,060 ล้านบาท รวมถึงโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงโคราช-หนองคาย ระยะทาง 356 กิโลเมตร รวมมูลค่าการลงทุน 341,351 ล้านบาท ให้ได้ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 68 โดยให้ รฟท.เดินหน้าจัดหาเอกชนเข้ามารับสัมปทานเดินรถ รูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ควบคู่กับการสร้างงานโยธา
นอกจากนั้น ยังให้ รฟท.เร่งก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช-ศาลายา และช่วงรังสิต-ธรรมศาสตร์ และช่วงบางซื่อ-พญาไท-หัวหมาก และช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง โดยจะหารือกับสำนักงาน สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เรื่องความจำเป็นในการจัดหาขบวนรถจำนวน 184 คัน มาวิ่งให้บริการ เพื่อรองรับการ สร้างรถไฟทางคู่ทั้งเฟส 1 และ เฟส 2
“ในปี 68 ประเทศไทยและจีนจะมีความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 50 ปี ดังนั้น รฟท.จะต้องเร่งสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ทั้ง 2 ระยะให้แล้วเสร็จ เพื่อเชื่อมต่อโครงการ One Belt One Road อย่างเป็นรูปธรรม แบ่งเป็นระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-โคราช ระยะทาง 250 กิโลเมตร (กม.) จำนวน 14 สัญญา ให้แล้วเสร็จตามแผน ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงกลางปี 71 ส่วนระยะที่ 2 ช่วงโคราช-หนองคายนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาอนุมัติโครงการ และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 71 เช่นกัน”
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ 2 รวม 6 เส้นทาง มูลค่า 298,060 ล้านบาท ประกอบด้วย ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กิโลเมตร วงเงิน 81,143 ล้านบาท, ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร วงเงิน 30,422 ล้านบาท, ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร วงเงิน 66,270 ล้านบาท, ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กิโลเมตร วงเงิน 68,222 ล้านบาท, ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตร วงเงิน 44,103 ล้านบาท, ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร วงเงิน 7,900ล้านบาท
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ส่วนการให้บริการผู้โดยสารนั้น มอบหมายให้ รฟท.ยกระดับ ขบวนรถไฟ โดยการปรับปรุงขบวนรถไฟชั้น 3 (รถพัดลม) ให้เป็นขบวนรถปรับอากาศ (รถแอร์) สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลด้วย ทั้งนี้ จะสามารถทำให้ รฟท.มีรายได้จากการให้บริการขบวนรถไฟพาณิชย์ได้เพิ่มมากขึ้นด้วย อย่างไร ก็ตาม ยืนยันว่าอัตราค่าโดยสารจะไม่กระทบต่อกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้มีรายได้น้อยอย่างแน่นอน
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่