นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศ เร่งรัดเจรจาขายข้าวให้กับจีนในส่วนที่เหลืออีก 280,000 ตัน จากสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) 1 ล้านตัน แต่ที่ผ่านมาซื้อขายกันแล้ว 820,000 ตัน เพราะค้างการเจรจามาหลายปีแล้ว คาดว่า ไม่น่ามีปัญหา จะสามารถจบได้ในเร็วๆนี้
สำหรับการขายข้าวจีทูจีให้อินโดนีเซียได้สั่งการให้เร่งเจรจาลอตต่อไปทันที หลังจากลอตแรกอินโดนีเซียซื้อแล้ว 55,000 ตัน ส่งมอบในเดือน เม.ย.เป็นต้นไป พร้อมกับสั่งการให้ขายข้าวไทยในทุกรูปแบบ ทั้งแบบรัฐกับเอกชน (จีทูพี) หรือแบบจีทูจี และให้ขายในทุกตลาด เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดข้าวไทย และผลักดันการส่งออกให้มากขึ้น ซึ่งจะมีผลทำให้ราคาข้าวไทยมีเสถียรภาพ เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาดี
ขณะที่การขายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลลอตสุดท้ายที่เก็บในโกดังจังหวัดสุรินทร์และอยู่ในความรับผิดชอบขององค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นข้าวสารหอมมะลิ 150,000 กระสอบ หรือ 15,000 ตัน จะเร่งนำออกมาประมูลขายเร็วๆนี้ อย่างช้าเดือน พ.ค. แต่จะเปิดให้ผู้สนใจและสื่อมวลชนร่วมตรวจสอบข้าวด้วย ยืนยันว่าข้าวยังมีคุณภาพดีและคนยังบริโภคได้ คาดว่าจะขายได้ไม่ต่ำกว่า 200-300 ล้านบาท การประมูลขายข้าวลอตนี้เป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับเจ้าของโกดัง ที่ดูแลรักษาข้าวมานานหลายปีแล้ว และต้องรมยาป้องกันแมลง 1-2 เดือนต่อครั้ง แต่ยังไม่ได้รับเงินค่าดูแลคุณภาพจาก อคส. และเป็นการเคลียร์พื้นที่ให้เอาโกดังไปใช้ประโยชน์และหารายได้.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่