นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และพวก 13 คนนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ หาก ผู้บริหารบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ถูกชี้มูล ก็จะมีผู้บริหารคนอื่นมาทำหน้าที่แทน ส่วนจะมีผลกระทบต่อนโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการเจรจาระหว่างกระทรวง คมนาคมกับผู้บริหารบีทีเอสที่เข้ามารักษาการทำหน้าที่บริหารได้ และหากอนาคตศาลตัดสินจะกระทบต่อสัญญาจ้างบีทีเอสในการเดินรถหรือไม่นั้น ขณะนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่และฝ่ายกฎหมายที่เกี่ยวข้องไปศึกษารายละเอียดของกฎหมาย เบื้องต้นได้รับรายงานว่าไม่น่ามีปัญหา
“ผมขอยืนยัน แม้ ป.ป.ช.จะชี้มูลเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวอย่างไร นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ยังคงมีอยู่และเดินหน้าอย่างแน่นอน โดยรถไฟฟ้าที่สามารถดำเนินการให้เป็นรูปธรรมได้ก่อนคือ รถไฟฟ้าสาย สีแดงของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และรถไฟฟ้าสายสีม่วงของ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งจะสามารถดำเนิน การได้ภายใน 3 เดือน ส่วนรถไฟฟ้าสายอื่นๆได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานไปเจรจารายละเอียดกับเอกชนผู้รับสัมปทาน โดยมั่นใจว่าจะได้ข้อสรุปและรายละเอียดที่สามารถนำมาปฏิบัติได้ภายใน 2 ปี”
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า จะเร่งนัดหารือนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยกระทรวงมหาดไทยต้องนำข้อมูลมาพิจารณา แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นรายละเอียด ส่วนจะกระทบกับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายหรือไม่นั้น ต้องรอให้มีข้อมูลครบถ้วนก่อน.