หวั่น กนง.ขึ้น "ดอกเบี้ย" อีกรอบ กระทบต้นทุนการเงิน ฉุดกำลังซื้อหด เอกชนอาจเบรกลงทุนใหม่ ลดจ้างงาน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

หวั่น กนง.ขึ้น "ดอกเบี้ย" อีกรอบ กระทบต้นทุนการเงิน ฉุดกำลังซื้อหด เอกชนอาจเบรกลงทุนใหม่ ลดจ้างงาน

Date Time: 31 ส.ค. 2566 10:59 น.

Video

ล้วงลึกอาณาจักร “PCE” สู่บริษัทมหาชน ปาล์มครบวงจร | On The Rise

Summary

  • เอกชน หวั่น กนง.เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย กระทบกำลังซื้อสินค้า เพิ่มแรงกดดันต้นทุนการผลิต นำไปสู่การขึ้นราคาสินค้า และหดการลงทุนใหม่ ส.อ.ท.แนะ รัฐบาลเร่งแก้หนี้ครัวเรือน ลดค่าครองชีพ และออกมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำช่วย SME

Latest


สืบเนื่องจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566 มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 2.00% เป็น 2.25% สูงสุดในรอบ 9 ปี ซึ่งส่งผลทำให้ต้นทุนทางการเงินปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และแนวโน้ม ดอกเบี้ยไทยยังอยู่ในช่วงขาขึ้น 

ล่าสุด “มนตรี มหาพฤกษ์พงศ์” รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผย ผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 32 ในเดือนสิงหาคม 2566 ภายใต้หัวข้อ “อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น กระทบอุตสาหกรรมแค่ไหน”

เอกชน หวั่น กนง.เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยตามเฟด

พบว่า ขณะนี้ผู้บริหาร ส.อ.ท.ส่วนใหญ่ค่อนข้างมีความกังวลมากกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ประกอบกับนักวิเคราะห์หลายสำนักมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed มีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ อีก 1 ครั้ง ในช่วงปลายปีนี้ และอาจกดดันให้ ธปท.ต้องมีการพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีกครั้ง เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงิน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมในเรื่องกำลังซื้อของประชาชนที่ชะลอตัว 

เนื่องจากภาระอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และหนี้สินครัวเรือนที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ประชาชนเริ่มระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ภาคธุรกิจเกิดแรงกดดันที่อาจส่งผลทำให้การปรับราคาสินค้าเพิ่มตามต้นทุนจริงทำได้ยากขึ้น ตลอดจนต้องชะลอการลงทุนใหม่ออกไป 

ขอรัฐออกมาตรการ “สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ” ช่วย SME 

ดังนั้น ผู้บริหาร ส.อ.ท.จึงเสนอขอให้รัฐบาลพิจารณามาตรการบรรเทาผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น เช่น ขอให้ธนาคารรัฐสนับสนุนมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ประกอบการ SMEs เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ มีการกำกับดูแลส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินฝากกับเงินกู้ (Spread) ให้ส่วนต่างลดลง รวมทั้งปรับเงื่อนไขการขอสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ เพื่อลดภาระและช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายยิ่งขึ้น และขอให้ ธปท.พิจารณาชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายออกไปก่อนในช่วงนี้ 

ด้านมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูง และกดดันเศรษฐกิจไทยอยู่ในขณะนี้ ผู้บริหาร ส.อ.ท.เสนอให้รัฐบาลยกระดับปัญหาหนี้ครัวเรือนเป็นวาระเร่งด่วนที่จะต้องแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ตั้งแต่การเข้ามาดูแลค่าครองชีพของประชาชน เช่น ค่าเดินทาง ค่าไฟฟ้า น้ำประปา ฯลฯ เพื่อลดภาระให้ประชาชนมีเงินเหลือใช้มากขึ้น การส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพใหม่ๆ และเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุมีรายได้จากการทำงาน การออกมาตรการสร้างแรงจูงใจเชิงบวก (Incentives) ให้กับลูกหนี้ชั้นดี และส่งเสริมให้ประชาชนใช้มาตรการช่วยเหลือในการปรับโครงสร้างหนี้ 

ทั้งในส่วนของหนี้สถาบันการเงินและหนี้นอกระบบ ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐในการนำมาช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างครบวงจรต่อไป.

    


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ