ชาวรัสเซีย หนีภัยสงคราม และเที่ยวบินจากจีนที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น ส่งผลนักท่องเที่ยวชาวจีน กำลังจะกลับมาทวงตำแหน่งนักท่องเที่ยวหลักในภูเก็ต ได้เพิ่ม การคาดการณ์ที่ว่าปีนี้ การท่องเที่ยวของประเทศไทย จะกลับมา “ผงาด” อย่างสง่างาม ด้วยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เข้าใกล้ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีไข่มุกแห่งอันดามัน อย่าง การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เป็นพระเอกของอุตสาหกรรม
ท่องเที่ยวภูเก็ต ครึ่งปีแรก ฟื้น 259% คาดทั้งปีทะลุ 14 ล้านคน
ล่าสุด "ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย" เผยว่า หลังจากประเทศไทยยกเลิกมาตรการข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิด จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในภูเก็ต ก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเกาะฟื้นตัวอย่างโดดเด่น
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาสูงถึง 1.8 ล้านคน ซึ่งเติบโตถึง 259% เมื่อเทียบปีต่อปี แตะระดับ 68% ก่อนเกิดโรคระบาด ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาจากนักท่องเที่ยวในประเทศ 1.6 ล้านคนที่หลั่งไหลมาเที่ยวภูเก็ตในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้แตะระดับ 82% ก่อนเกิดโรคระบาด และสะท้อนถึงการเติบโตที่โดดเด่น 67% เมื่อเทียบปีต่อปี
ด้วยแนวโน้มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภูเก็ตยังคงสดใส สมาคมโรงแรมไทยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งหมด 14 ล้านคนภายในสิ้นปี 2566 คิดเป็น 96% ของระดับก่อนเกิดโควิด ซึ่งแสดงถึงการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งและมั่นคง
ชาวรัสเซีย-ชาวจีน-อินเดีย-ออสเตรเลีย TOP 4 เที่ยวภูเก็ต
ทั้งนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ของภูเก็ต ไนท์แฟรงค์ ชี้ว่า นักท่องเที่ยวจากรัสเซีย เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มหลัก ตามมาด้วยนักท่องเที่ยวจากจีน ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักในช่วงครึ่งแรกของปี 2566
นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวจากอินเดียและออสเตรเลียอีกด้วย จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มขึ้นเป็นอันดับสองหลังจากที่ประเทศจีนผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางในเดือนมกราคม 2566 ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมโรงแรมในภูเก็ต
โดยนักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติหลักก่อนเกิดโรคระบาด การฟื้นตัวครั้งนี้เน้นย้ำถึงเสน่ห์อันยั่งยืนของภูเก็ตในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวชั้นนำสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ราคาห้องพักภูเก็ต เพิ่มขึ้น 55% แตะเฉลี่ย 4,371 บาท ต่อคืน
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงหลั่งไหลเข้ามาภูเก็ต ส่งผลให้ความต้องการห้องพักโรงแรมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเห็นได้ชัดจากอัตราการเข้าพักที่สูงขึ้นอย่างน่าตกใจถึง 81% เพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบปีต่อปี อัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงสุดในเดือนมีนาคม สูงถึง 87% ในขณะที่อัตราการเข้าพักเฉลี่ยต่ำสุดในเดือนพฤษภาคม แต่ก็ยังคงเป็นที่น่าพอใจที่ 73%
นอกจากนี้ราคาเฉลี่ยที่พักรายวัน (ADR) ก็ฟื้นตัวอย่างโดดเด่นในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 โดยเพิ่มขึ้นถึง 55% เมื่อเทียบปีต่อปี แตะ 4,371 บาท ซึ่งสูงกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาดถึง 4.9% ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวที่สดใสแซงหน้าระดับก่อนเกิดโรคระบาด
อุตสาหกรรมโรงแรมในภูเก็ตเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญเนื่องจากขาดเงินทุนจากผู้ให้กู้ ส่งผลให้หลายโครงการหยุดชะงัก ทำให้โรงแรมที่กำลังวางแผนก่อสร้างได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
ยกเว้นภูเก็ต เอมเมอรัลด์ บีช รีสอร์ต รีสอร์ตสุดหรูอัปสเกลบนหาดกะรน ขนาดห้องพัก 217 ห้อง และมีส่วนสนับสนุนอุปทานโดยรวมของเกาะ ทำให้จำนวนห้องพักทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 44,241 ห้อง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2566
นอกจากรีสอร์ตเปิดใหม่แล้ว ยังมีการพัฒนาที่น่าจับตามองของภาคโรงแรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง โดย แอคคอร์ กรุ๊ป หนึ่งในกลุ่มโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต ได้ทำการรีแบรนด์และประสบความสำเร็จในการปรับปรุงรีสอร์ตริมชายหาดที่กว้างขวางและเป็นที่รู้จักเป็นพูลแมน ภูเก็ต อาเคเดีย หาดกะรน ปัจจุบันมีห้องพักทั้งหมด 662 ห้อง
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายต่อเนื่องที่ผู้ประกอบการโรงแรมจะต้องเผชิญคือการขาดแคลนพนักงาน ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากโรงแรมกลับมาเปิดดำเนินการในช่วงระยะเวลาฟื้นตัวในช่วงปลายปี 2565