การท่องเที่ยวชู 5 เพชรเม็ดงามหนุนเที่ยวทะเลไทย

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

การท่องเที่ยวชู 5 เพชรเม็ดงามหนุนเที่ยวทะเลไทย

Date Time: 3 พ.ค. 2566 07:32 น.

Summary

  • ประเทศไทยยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวได้อีกมาก โดยเฉพาะการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงรุกชายฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน รวมกว่า 3,000 กิโลเมตร

Latest

นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ คนใหม่ เปิด 9 นโยบายสานต่อ ยกระดับชีวิตเกษตรกร

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ประเทศไทยยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวได้อีกมาก โดยเฉพาะการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงรุกชายฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน รวมกว่า 3,000 กิโลเมตร ซึ่งในปี 2565 มีมูลค่ารายได้รวมมากถึง 1.21 ล้านล้านบาทแบ่งเป็น 5 คลัสเตอร์ ได้แก่ 1.พื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้แก่ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และ 2 จังหวัดใกล้เคียง คือ จันทบุรี และตราด ปี 2565 มีผู้มาเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ 31 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 340,000 ล้านบาท คิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 3,081 บาท/คน/วัน สามารถพัฒนาไปสู่การท่องเที่ยวเชิงอุตสาหกรรมให้ทัศนศึกษาและเยี่ยมชมโรงงานผลิตสินค้าได้ เหมือนในเมืองโยโกฮามะ ประเทศญี่ปุ่น ที่มีโรงเบียร์คิริน (Kirin) และพิพิธภัณฑ์บะหมี่ถ้วยของแบรนด์นิสชิน (Nissin)”

2.พื้นที่โครงการไทยแลนด์ ริเวียร่า เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง 4 จังหวัด มีจุดขายทั้งภูเขาและทะเล สามารถโปรโมตเส้นทางขับรถเที่ยว ซึ่งต้องพัฒนาสถานีริมทาง คอมมูนิตี้คอมเพล็กซ์สำหรับขายสินค้าต่างๆ รองรับการขับรถเที่ยว โดยปี 2565 มีจำนวนชาวไทยและต่างชาติมาเที่ยว 18 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 85,000 ล้านบาท คิดเป็นการใช้จ่ายเฉลี่ย 2,362 บาท/คน/วัน

3.พื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน 5 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง และสตูล ปี 2565 มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือน 29 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 600,000 ล้านบาท มากกว่าพื้นที่อีอีซีเกือบ 2 เท่าแม้มีผู้เยี่ยมเยือนน้อยกว่า คิดเป็นการใช้จ่ายเฉลี่ย 4,800 บาท/คน/วัน สูงสุดในบรรดา 5 คลัสเตอร์ พื้นที่นี้ต้องถีบตัวเองให้เป็นพรีเมียมอันดามัน ตอบโจทย์เรื่องคุณภาพมากขึ้น โดยโปรเจกต์สำคัญคือการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โป 2028 ภูเก็ต ไทยแลนด์ และส่งเสริมพื้นที่ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ให้มีชื่อเสียงเรื่องน้ำพุร้อน ส่งเสริม จ.พังงา ให้เป็นจุดหมายปลายทางโลว์คาร์บอน ในพื้นที่เกาะคอเขา เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ และเขาหลัก

4. พื้นที่ชายฝั่งทะเล 4 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา เมื่อปี 2565 มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนทั้งชาวไทยและต่างชาติ 18 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 180,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 2,861 บาท/คน/วัน มีจุดขายหลากหลาย เช่น สายมู และสายธรรมชาติ ซึ่งล่าสุดได้มีการประกาศพื้นที่พิเศษลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 5.พื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดชายแดนใต้ ครอบคลุมปัตตานี นราธิวาส และยะลาที่แม้ไม่ติดทะเล แต่สามารถโปรโมตพ่วงได้ โดยแนวคิดคือจะส่งเสริม 3 จังหวัดชายแดนใต้ให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ ภายใต้ชื่อ Deep South Creative ด้วยการลบภาพจำเก่าๆ สร้างแบรนด์ 3 จังหวัดพร้อมสนับสนุนคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมสร้างสรรค์เมือง โดยเมื่อปี 2565 มีผู้เยี่ยมเยือน 1.6 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 7,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 2,264 บาท/คน/วัน.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ