กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างการรับรู้สินค้า “สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์” หรือ GI ของไทย ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกมากยิ่งขึ้น
ล่าสุด ผุดโปรเจกต์ “สัมผัสสำรับ GI สุดประณีตด้วยเชฟมิชลิน” ปลุกกระแสรับรู้สินค้า GI ไปสู่วงการอาหารระดับ “มิชลิน” ที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า นำมาซึ่งการสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน
“นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์” อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เล่าว่า ต้องการให้ GI ไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และทำให้แหล่ง ผลิตกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มองว่าผู้นำเสนอสินค้า GI ไปสู่สายตาชาวโลกได้ดีที่สุด ต้องเป็นคนที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ซึ่งก็คือ “เชฟระดับมิชลิน”
กรมจึงร่วมมือกับมิชลินไกด์ ประเทศไทยและการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทำโครงการนี้ โดยนำวัตถุดิบ GI มารังสรรค์เป็นเมนูอาหารสุดพิเศษ โดยฝีมือของ “เชฟมิชลิน”
“การคัดเลือกวัตถุดิบ GI มีทีมเชฟและเจ้าหน้าที่ของกรมลงพื้นที่ไปจังหวัดต่างๆที่เป็นแหล่งผลิต เพื่อไปเลือกว่า จะใช้วัตถุดิบใดบ้าง ไปดูหมด ทั้งแหล่งผลิตข้าว เนื้อสัตว์ พืชผักสมุนไพร ผลไม้ จนในที่สุด คัดเลือกได้ 23 รายการ เพื่อนำมาทำเป็นอาหารในระดับ Fine Dining โดยฝีมือของเชฟชาลี กาเดอร์ เจ้าของรางวัลบิบ กูร์มองด์ จากมิชลินไกด์ ประเทศไทย จากร้านอาหาร “วรรณยุค”
โดยวัตถุดิบ 23 รายการ ประกอบด้วย มะยงชิดนครนายก นครนายก, มะขามเทศเพชรโนนไทย และไวน์เขาใหญ่ นครราชสีมา, ไชโป๊โพธาราม ราชบุรี, ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง และปลาดุกร้าทะเลน้อยพัทลุง พัทลุง, ไข่เค็มไชยา และมะพร้าวเกาะพะงัน สุราษฎร์ธานี, ปลาสลิดบางบ่อ สมุทร ปราการ, ชมพู่เพชร และน้ำตาลโตนดเมืองเพชร เพชรบุรี, ข้าวหอมมะลิอุบลราชธานี อุบลราชธานี, พริกบางช้าง สมุทรสงคราม
รวมถึงเนื้อโคขุนโพนยางคำ สกลนคร, เกลือภูเขาบ่อเกลือน่าน น่าน, ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา สงขลา, ข้าวเหนียวเขี้ยวงูเชียงราย เชียงราย, ข้าวก่ำล้านนา (ครอบคลุม 8 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน พะเยา แม่ฮ่องสอน), มะพร้าวน้ำหอมราชบุรี ราชบุรี, มังคุดเขาคีรีวง นครศรีธรรมราช, พริกไทยจันท์ จันทบุรี, หอมแดงศรีสะเกษ และกระเทียมศรีสะเกษ ศรีสะเกษ
เมื่อคัดเลือกวัตถุดิบได้แล้ว เชฟต้องนำมาทดลองทำเป็นอาหารเมนูต่างๆ และเมื่อทุกอย่างลงตัว อาหารพิเศษก็พร้อมอวดสายตาชาวโลก จึงเชิญ “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ พร้อมด้วยนักชิม และกูรูด้านอาหาร มาร่วมลิ้มรสอาหารไทยระดับ Fine Dining ที่ร้าน “วรรณยุค” เมื่อวันที่ 9 มี.ค.66
ซึ่งได้แก่ เชฟชุมพล แจ้งไพร ผู้รังสรรค์เมนูอาหารไทย ใน APEC 2022, เชฟเนตร เนตรอำไพ สาระโกเศศ กรรมการรายการ “เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย”, มาดามตวง อุบลรัตน์ ช่อธีระพฤกษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร, นายช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา เจ้าของเว็บไซต์ “The Could”, นายพีรพัฒน์ ตุลยาเดชานนท์ นักรีวิวอาหารชื่อดังเจ้าของเพจ “กินกับพีท” และนายชลทิพย์ ระยามาศ เจ้าของรางวัล Top Food Influencer จากเวที Influencer Asia 2015
โดยหวังให้บุคคลเหล่านี้ ถ่ายทอดประสบการณ์สู่ผู้ชมในโลกออนไลน์กว่า 10 ล้านคน เพื่อเผยแพร่อัตลักษณ์ วัฒนธรรม อาหารไทย และสร้างการรับรู้สินค้า GI ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบอาชีพด้านอาหารนำสินค้า GI มาเป็นวัตถุดิบ
สำหรับเมนูที่รังสรรค์จากวัตถุดิบ GI ทั้ง 23 รายการนั้น มีทั้งคาว หวาน และเครื่องดื่ม เริ่มจากน้ำมะยงชิด ตามด้วยเมนูกินเล่น คือ ม้าฮ่อมะยงชิด หมูย่างมะขามเทศ ขนมเบื้องญวน และอาหารเรียกน้ำย่อย คือ น้ำพริกลงเรือ Daily Relish ขณะที่จานหลัก เป็นต้มข่าไก่ น้ำพริกผัด กุ้งแพทอด กากหมู ตามด้วยแกงส้มมะละกอ เนื้อเค็ม ต้มกะทิ, ปลาย่าง แกงอ่อม ป่นปลา ข้าวจี่
ต่อด้วยแกงคั่วหอยแครง กุ้งผัดพริกเกลือ ยำปลาดุกร้ามะพร้าวอ่อน ที่สร้างเซอร์ไพรส์ไม่น้อย เพราะรวมกันมาเป็นคำเดียว แต่รับรู้ได้ถึงรสชาติ และรสสัมผัสของวัตถุดิบแต่ละชนิดอย่างชัดเจน ปิดท้ายด้วย เมนูหลัก ข้าวแกงวรรณยุค ที่มีทั้งยำเนื้อมังคุดเขาคีรีวง แกงป่ากุ้งสับ หลนเต้าเจี้ยวหมูสับ ไข่ดาววรรณยุค และขนมหวาน คือเปียกปูน
นายวุฒิไกร กล่าวว่า “อาหารทั้งหมด เชฟนำวัตถุดิบ GI มารังสรรค์ได้อย่างลงตัว มีรสชาติโดดเด่น จากนี้ GI ไทยจะเป็นที่รู้จักกว้างขวางมากขึ้น จะขึ้นไปอยู่บนโต๊ะอาหารในร้านอาหารชั้นนำของไทย และในระดับสากล ซึ่งจะช่วยยกระดับรายได้ และคุณภาพชีวิตของชุมชนได้อย่างยั่งยืน”
ด้าน “มาดามตวง” บอกว่า เชฟชาลี เปรียบเหมือน “ศิลปิน” ที่นำเครื่องดนตรีชิ้นต่างๆมาบรรเลงร่วมกันในแบบวงออร์เคสตรา เพิ่มเสน่ห์ของวัตถุดิบ GI และอาหารไทย ที่เป็น “Soft Power” ให้ทั่วโลกรู้จักได้อย่างดีแน่นอน
ส่วน “นายจุรินทร์” กล่าวว่า การนำ GI มาทำอาหาร ไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ GI แต่ยังทำให้คนรู้จักว่า GI ปรุงอาหารรสเลิศได้ และจะช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชนเพิ่มขึ้น ซึ่งการขึ้นทะเบียน GI ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้ตั้งแต่ 1 เท่า ไปจนถึง 2-3 เท่าตัว และมากกว่า
สินค้า GI ไทยกระหึ่มโลกแน่นอน!!
สิริวรรณ พงษ์ไพโรจน์
การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล