นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการ (บอร์ด) สลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานได้ปรับสัดส่วนการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลใหม่ โดยงวดวันที่ 16 มี.ค.จะมีสลากดิจิทัลเพิ่มเป็น 19 ล้านใบ จากปัจจุบัน 17 ล้านใบ โครงการสลาก 80 จำนวน 2.5 ล้านใบ สลากโควตาสำหรับองค์กร มูลนิธิต่างๆ 30 ล้านบาท สลากสำหรับผู้ลงทะเบียนระบบซื้อจอง 48.5 ล้านใบ รวมสลากทั้งหมด 100 ล้านใบ
“สลากแบบใบสำหรับผู้ลงทะเบียนระบบซื้อจอง 48.5 ล้านใบ สำนักงานจะนำมาจัดสรรใหม่ในงวดวันที่ 1 เม.ย. โดยผู้ลงทะเบียนระบบซื้อจองที่มีอยู่ 140,000 ราย จะได้ทุกคน คนละ 3 เล่ม หรือ 300 ใบ รวม 42 ล้านใบ ส่วนที่เหลือ 6.5 ล้านใบ เปิดให้ผู้ลงทะเบียนระบบซื้อจองได้เข้าคิวซื้อจอง เพื่อได้รับสิทธิอีก 3 เล่ม อีกครั้ง ทำให้มีผู้ค้าที่ได้รับสิทธิสลาก 6 เล่ม เพียง 21,000 คน ถือเป็นการรื้อระบบซื้อจอง จากเดิมคนละ 5 เล่ม หรือ 500 เล่ม”
หากผู้ค้าในระบบซื้อจองต้องการรักษาสิทธิ 5 เล่มคืน ก็สามารถแจ้งสำนักงานฯเพื่อเข้าสู่ระบบสลากดิจิทัลแบบรวดเร็ว (ฟาสแท็กซ์ )โดยไม่ต้องรอคิวไม่ต้องสมัครใหม่ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีสิทธิเดิม เพียงแต่ย้ายโอนจากสลากใบระบบซื้อจองมาเป็นสลากดิจิทัล ทำให้ปริมาณสลากดิจิทัลเพิ่มขึ้นอีก
“การจัดสรรจำนวนสลากใหม่จาก 5 เล่ม เหลือ 3 เล่ม เพื่อแก้ไขปัญหาการแย่งสลาก ของผู้ค้าระบบจองซื้อ เพราะมีบางคนได้ บางคนไม่ได้ แต่จากนี้ไปจะได้ทุกคน คนละ 3 เล่ม แต่ถ้าอยากได้เพิ่มอีก 3 เล่มก็ต้องมาเข้าคิวระบบซื้อจองตามวันเวลาที่ประกาศ คนมาก่อนก็ได้ก่อน เพื่อลดปัญหาการแย่งกันลง แต่ถ้ายังเกิดปัญหาแย่งกันอีก ก็ต้องมาแก้ปัญหากันอีกครั้ง ค่อยๆแก้ปัญหากันไป”
สำหรับที่มาของการเพิ่มสลากดิจิทัลจาก 17 ล้านใบ เป็น 19 ล้านใบ มาจากการยึดโควตาคืนจากผู้ค้ารายย่อยที่ทำผิดสัญญากับสำนักงาน 10,000 ราย จากเดิม 20,000 ราย รวมเป็น 30,000 ราย และยังอยู่ในบัญชีที่จะยึดคืนอีก 20,000-30,000 ราย โดยสลากที่ยึดคืนมา เป็นสลากที่นำไปขายผ่านแพลตฟอร์ม ออนไลน์ โดยเฉพาะกองสลากพลัส เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่นำสลากมาขึ้นรางวัลแทนลูกค้าในทุกงวดที่ผ่านมา.