ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค.65 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและศึกษาผลกระทบทางสังคมต่อการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเลข 3 หลัก (NUMBERS 3 : N 3) ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมทั้งสลากเลข 6 หลัก (LOTTERY 6 : L 6) หลังจากมีการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2562 จึงต้องทำประชาพิจารณ์อีกครั้ง จากปัจจุบันใช้บทเฉพาะกาล
ในการดำเนินการทั้งผลิตและจำหน่าย ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯได้เดินสายรับฟังความเห็นในต่างจังหวัดมาตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา และวานนี้ (9 ส.ค.). เป็นการรับฟังความคิดเห็นครั้งสุดท้ายในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล
นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ภาพรวมการลงพื้นที่รับฟังความเห็นที่ผ่านมา พบว่าผู้บริโภคมีความต้องการซื้อสลากราคา 80 บาทผ่านสลากดิจิทัล เพราะสะดวกและได้ราคา 80 บาท ขณะที่ผู้ขายลอตเตอรี่ได้แสดงความกังวลว่าสลากดิจิทัล และ N3 ที่เปิดจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลนั้น จะทำให้คนขายกลุ่มเดิมขายลำบากมากยิ่งขึ้น ขณะที่มิติทางสังคมมองว่าอาจเป็นการมอมเมาประชาชน
ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯยังมีเป้าหมายหลักเพื่อดูแลผู้บริโภคให้ได้ซื้อสลากในราคาที่กำหนด และจะดูแลผู้ขายเดิมและผู้ขายใหม่ให้อยู่ร่วมกันได้ โดยประโยชน์ของสลาก N 3 ที่มีต่อผู้ขาย คือ ไม่ต้องนำเงินมาซื้อสลากฯ 35,000 บาทต่องวด เหมือนกับสลาก 6 หลัก จึงไม่ต้องแบกรับภาระขาดทุน อีกทั้งช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคา แข่งขันกับหวยใต้ดินนำเงินมาพัฒนาประเทศได้อีก ทั้งนี้ สลาก N 3 จะมีรางวัลเลขท้าย 2 ตัวตรง 3 ตัวตรง 3 ตัวโต๊ด และรางวัลแจ็กพอต จำหน่ายใบละ 50 บาท รูปแบบจะไม่ใช่สลากกินรวบ แต่จะเป็นกินแบ่ง นำรายได้จากการขายสลาก 60% มาเป็นเงินรางวัล และมีรางวัลแจ็กพอต ซึ่งหากไม่มีใครถูกรางวัลจะนำเงินสะสมไปงวดถัดไปอีก 1 งวด
โดยหลังจากเปิดเวทีรับฟังความเห็นครบทั้ง 6 ภูมิภาค จะรวบรวมความเห็นทั้งหมดเข้ากับความเห็นทางเว็บไซต์สำนักงาน www.glo.or.th หรือ newlottery.glo.or.th และช่องทางอื่นๆ ซึ่งจะปิดวันที่ 10 ส.ค.นี้ จากนั้นจะศึกษาผลกระทบในทุกมิติ และเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) สลากกินแบ่งรัฐบาลวันที่ 11 ก.ย.65 จากนั้นจะเสนอให้กระทรวงการคลัง และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หากผ่านความเห็นชอบ คาดว่าจะออกสลากได้ในกลางปีหน้า.