พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ รายละ 100-250 บาทต่อเดือน ต่อเนื่องตามช่วงอายุเป็นเวลา 6 เดือน เริ่มในเดือน เม.ย.-ก.ย. จะมีผู้สูงอายุได้รับสิทธิกว่า 10 ล้านคน รวมเป็นวงเงินมากกว่า 8,348.16 ล้านบาท ทำให้โดยสรุปเดือนนี้ผู้สูงอายุจะได้รับเบี้ยยังชีพที่มีเดิมอยู่แล้ว และเงินช่วยเหลือพิเศษตรงนี้โอนตรงเข้าบัญชีจำนวน 700-1,250 บาท ต่อเดือน
“นี่คือสิ่งที่รัฐมีความห่วงใยให้กับพี่น้องผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลเป็นพิเศษในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้สูงอายุจำนวนมากได้รับผลกระทบ เพื่อให้พี่น้องผู้สูงอายุได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพมากขึ้น นั่นคือหลักการของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญสูงสุดในการดูแลประชาชนทุกกลุ่ม เราจะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี เปิดเผยว่า มีผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ได้ทำให้ผู้สูงอายุได้รับผลกระทบทางรายได้คิดเป็น 50.7% ของผู้สูงอายุทั้งหมด และรายได้ของผู้สูงอายุที่มาจากการทำงานมีสัดส่วนลดลงจาก 40% เหลือเพียง 22% สำหรับการจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษแก่ผู้สูงอายุในครั้งนี้ จะจ่ายเพิ่มจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นรายเดือนตามช่วงอายุ เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ย.2565 ดังนี้
1.อายุ 60 -69 ปี รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 บาท/เดือน รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่ม 100 บาท/เดือน รวมเป็น 700 บาท/เดือน 2.อายุ 70-79 ปี รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 700 บาท/เดือน รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่ม 150 บาท/เดือน รวมเป็น 850 บาท/เดือน 3.อายุ 80-89 ปี รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 800 บาท/เดือน รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่ม 200 บาท/เดือน รวมเป็น 1,000 บาท/เดือน 4.อายุ 90 ปีขึ้นไป รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 1,000 บาท/เดือน รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่ม 250 บาท/เดือน รวมเป็น 1,250 บาท/เดือน.