นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังไม่ได้นำเรื่องโครงสร้างภาษีบุหรี่เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแต่อย่างใด เนื่องจากกรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม จะมีการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่แน่นอน แต่จะปรับอัตราเท่าใดนั้น บอกไม่ได้แน่นอนเพราะเป็นความลับ
ส่วนกรณีการกักตุนบุหรี่ของผู้ประกอบการเพื่อรอโครงสร้างภาษีใหม่นั้น ทางกรมสรรพสามิตได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว โดยเป็นการคาดเดาของผู้ประกอบการ ผู้ค้าเองว่าจะมีการปรับภาษีในอัตราเท่าไร และปรับเวลาใด เพราะในขณะนี้กระทรวงการคลังยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องภาษีในรายละเอียดอย่างเป็นทางการ
ส่วนความคืบหน้าโครงการอีแสตมป์ที่จะนำมาใช้กับสินค้าเครื่องดื่ม บุหรี่ เพื่อแสดงการเสียภาษีแล้วนั้น นายอาคมกล่าวว่า ขณะนี้ไม่สามารถเสนอได้พร้อมกับการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ ที่จะเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติ ให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ได้ เนื่องจากยังมีขั้นตอนต้องดำเนินการอีกหลายขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการสร้างภาษีบุหรี่ในปัจจุบัน กำหนดให้ผู้ผลิตและผู้นำเข้าบุหรี่ต้องเสียภาษี ทั้งคำนวณจากปริมาณและมูลค่ารวมกัน เริ่มจากเก็บต่อมวนละ 1.20 บาท และจัดเก็บกรณีบุหรี่ราคาไม่เกิน 60 บาทต่อซอง จะจัดเก็บภาษี 20% แต่ถ้าราคาบุหรี่เกินราคา 60 บาทขึ้นไป จัดเก็บภาษี 40% และนอกจากภาษีสรรพสามิตแล้ว ยังมีภาษีเพื่อมหาดไทยและนำเงินส่งกองทุนผู้สูงอายุอีกราว 12% ของภาษีสรรพสามิต.