นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยในการประชุม ใหญ่สามัญประจำปี สมาคมโรงแรมไทย ว่า จะหารือกับนายกรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เพื่อให้จัดสรรวัคซีนให้คนกรุงเทพฯ 10 ล้านคน หรือ 20 ล้านโดส และภายในเดือน ก.ย.64 ขอให้ ฉีดวัคซีนให้คนกรุงเทพฯให้ได้ 60% ของประชากร ทั้งที่มีชื่อและไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน จนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ เพื่อให้วันที่ 1 ต.ค.64 จะเพิ่มกรุงเทพฯเป็นจังหวัดที่ 7 ที่สามารถรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วมาท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องกักตัว
ตามข้อเสนอของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมที่กรุงเทพฯจะเริ่มวันที่ 1 ม.ค.65 หรือเร็วขึ้น 1 ไตรมาส “เดิมมี 6 พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา พัทยา เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี แต่มีเอกชนท่องเที่ยวเสนอขอให้เพิ่มกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสเพิ่ม เนื่องจากกรุงเทพฯเป็นเมืองที่ต่างชาตินิยมมาท่องเที่ยว และสามารถกระจายนักท่องเที่ยวไปจังหวัดอื่นได้สะดวก จะผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้ แต่ตอนนี้ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดให้กรุงเทพฯ เป็นจังหวัดนำร่องที่ 7 แต่เชื่อมั่นว่าจากนี้อีก 4 เดือนข้างหน้า หรือ มิ.ย.-ก.ย.64 เมื่อได้วัคซีนมาเพิ่มอีก 36 ล้านโดส จะขอให้จัดมาให้คนกรุงเทพฯ เชื่อว่าจะทำให้รายได้การท่องเที่ยวจากต่างชาติปีนี้ ฟื้นกลับมาเท่าปี 62 ราว 80%”
นายพิพัฒน์กล่าวว่า หลังวันที่ 1 ก.ค.64 เป็นต้นไป การนำนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเข้ามาภายใต้โมเดลแซนด์บ็อกซ์นำร่องที่ภูเก็ตนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้หารือกับสมาคมโรงแรมไทย และสมาคมสายการบินประเทศไทย จัดทริปพิเศษให้ต่างชาติที่บินตรงไปเที่ยวที่ภูเก็ต สามารถเดินทางไปเที่ยวต่อยังเกาะพงัน เกาะสมุย และเกาะเต่า หลังพำนักในภูเก็ตครบ 7 วัน โดยโรงแรมต้นทางและปลายทาง สายการบินและภาครัฐจะสนับสนุนค่าเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะนั้นๆ
โดยมีโปรโมชันพิเศษช่วยต่อยอดให้ต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้น “ยังมีแนวคิดที่ยังไม่ตกผลึกและต้องหารือเพิ่มเติมว่า ช่วงทำแซนด์บ็อกซ์ที่ภูเก็ต จะจัดเส้นการเดินทางให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่อาจพักในภูเก็ต 3 วัน ส่วนอีก 4 วัน อาจไปเกาะสมุย เกาะเต่าหรือเกาะพงัน แต่ต้องได้รับการอนุมติจาก ศบค.ก่อน ประเมินว่าช่วงที่นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน เม.ย.-มิ.ย.64 จะมีต่างชาติเข้ามา 100,000 คน จากนั้นช่วง ก.ค.-ธ.ค.64 ต้องดึงต่างชาติเข้ามาให้ได้อีก 6.4 ล้านคน เพราะปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 6.5 ล้านคน เพื่อให้รายได้การท่องเที่ยวรวมตลาดต่างชาติและไทยเที่ยวไทยอยู่ที่ 1.2 ล้านล้านบาท”.