เส้นทางสู่ความสำเร็จ "หอมมนต์เบเกอรี่" เค้กร้อยล้าน เริ่มจากเงิน 2,000 บาท

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เส้นทางสู่ความสำเร็จ "หอมมนต์เบเกอรี่" เค้กร้อยล้าน เริ่มจากเงิน 2,000 บาท

Date Time: 3 มี.ค. 2564 18:00 น.

Video

นักลงทุนรุ่นใหม่ ยังเป็น VI ได้ไหมในยุคนี้กับ “เซียนมี่ ทิวา” และ ”นิ้วโป้ง อธิป“ | Money Issue

Summary

  • "เศรษฐีป้ายแดง" วันนี้พูดคุยกับ "ผึ้ง-ประภาภรณ์ ไชยมาตร" เจ้าของหอมมนต์เบเกอรี่ อาณาจักรเค้กร้อยล้าน เริ่มต้นธุรกิจด้วยเงิน 2,000 บาท จากจุดต่ำสุดของชีวิต กัดฟันสู้จนประสบความสำเร็จ

Latest


"เศรษฐีป้ายแดง" วันนี้พูดคุยกับ "ผึ้ง-ประภาภรณ์ ไชยมาตร" เจ้าของหอมมนต์เบเกอรี่ อาณาจักรเค้กร้อยล้าน เริ่มต้นธุรกิจด้วยเงิน 2,000 บาท จากจุดต่ำสุดของชีวิต กัดฟันสู้จนประสบความสำเร็จ

วันที่ 2 มีนาคม 2564 รายการ "เศรษฐีป้ายแดง" ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์, เนย โชติกา วงศ์วิลาศ และ อาร์ม ชนะ เดชภิรัตนมงคล จะพาไปพูดคุยกับ คุณผึ้ง ประภาภรณ์ ไชยมาตร อายุ 31 ปี เจ้าของ "หอมมนต์เบเกอรี่" อาณาจักรเบเกอรี่ที่มีมูลค่านับร้อยล้าน มีแฟรนไชส์ทั่วประเทศ เริ่มต้นขายเบเกอรี่ตามตลาดนัด ในราคาที่จับต้องได้ เพียงชิ้นละ 25 บาทเท่านั้น ปัจจุบันมีหน้าเค้กให้เลือกมากกว่า 50 แบบ และขนมอื่นๆ สามารถผลิตได้ 5 หมื่นชิ้นต่อวัน

คุณผึ้ง ประภาภรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจมีตัวแทนอยู่ 60 จังหวัดทั่วประเทศ และมีตัวแทนขายตามตลาดนัดอีก 2,000 จุดท่ัวประเทศ ในระยะเวลาเพียง 4 ปี เท่าน้ัน

สาเหตุที่ขายเค้กในราคาจับต้องได้เพราะสมัยก่อนเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่ไม่ค่อยมีเงิน เค้กชิ้นหนึ่งราคาเป็นร้อย แพงกว่าข้าว 1 จาน ตนเลยรู้สึกว่าถ้ามาจับกลุ่มเบเกอรี่ ก็อยากทำเค้กที่มีคุณภาพแต่ขายในราคาที่เอื้อมถึง คนเงินน้อยได้กินของอร่อย ที่สำคัญวัตถุดิบแทบจะทุกอย่างในโรงงานใช้เป็นของนําเข้า ทั้งวิปครีม แป้ง เป็นเกรดพรีเมียม นําเข้ามาเดือนละเป็น 10 ตัน เนยสดที่ใช้เป็นแบบไขมันทรานส์ 0% ส่วนวัตถุดิบหลักอย่างไข่ไก่นี่เป็นของบ้านเราที่ต้องคัดสดๆ ส่งมาให้โรงงานเดือนละกว่า 120,000 ฟอง เพราะฉะนั้นลูกค้ามั่นใจได้ว่าเบเกอรี่ของหอมมนต์ สด ใหม่ ใช้ของดี


สำหรับเริ่มต้นในการทำธุรกิจเบเกอรี่ ในตอนนั้นตนจบ ม.6 อายุประมาณ 20 ปี มีแฟนช่วยกันทำมาหากิน ทำธุรกิจขายส่งเสื้อผ้าที่ประตูน้ํา แต่ขายดีจนเจ๊ง เพราะโดนโกง ต้องเป็นหนี้หลักล้าน ไม่เหลืออะไรเลย ไม่มีเงิน ไม่มีงาน อยู่ประมาณ 1 ปี และ กําลังท้องลูกคนที่ 2 กระทั่งวันหนึ่งเพื่อนทานบลูเบอร์รีชีสพาย ตนเห็นแล้วก็มีความคิดอยากทำขายตลาดนัด แต่ยังไม่มีทุน

กระทั่งคลอดลูกแล้ว แม่สามีให้เงิน 2,000 บาท เป็นเงินรับขวัญหลาน แต่เรามองว่าเงินนี้มันเยอะ เอามาลงทุนได้ จึงนำเงินจํานวนนี้ไปซื้อวัตถุดิบทําเค้กหมดเลย พวกครีมชีส แครกเกอร์ บลูเบอร์รี แต่เงินไม่พอซื้ออุปกรณ์ เลยไปยืมเงินเพื่อนมาอีก จนทําเค้กได้ 5 ก้อน ก็คือ 50 ชิ้น ยังจําวันแรกได้เลยว่า ยังหั่นออกมาไม่เท่ากันเลย วันนั้นบังเอิญเพื่อนมาบ้าน เลยให้ชิมไป 3 ชิ้น เพื่อนบอกว่า อร่อยมาก ทําขายได้เลย ด้วยคําพูดนี้ของเพื่อนเลยตัดสินใจนำเค้ก 47 ชิ้น ไปขายวันรุ่งขึ้น ได้กำไรมา 470 บาท มีเงินไว้ซื้อนมให้ลูกกิน และยังมีเงินอีก 2,000 ไว้ซื้อวัตถุดิบ นั่นคือจุดเริ่มต้นของการทําอาชีพ

แบรนด์แรกที่ทำคือ Sweet’n Soft ขาย 3 ชิ้น 100 บาท ขายดีมาก ทําออเดอร์เยอะมาก จนต้องรับลูกน้องมาเพิ่ม จนบ้านแม่สามีรองรับไม่ไหว ลูกน้องชื่อว่า พี่หยี เลยชวนไปเปิดร้านข้างนอก แต่ตนยังไม่มีเงินทุนเลย พี่หยีเลยให้ผึ้งยืมเงิน 4 หมื่นบาท ได้ไปเช่าตึกเล็ก จาก 1 ตึก เพิ่มเป็น 3 ตึก ในเวลาไม่ถึงปี มีพนักงานร้อยกว่าคน จากรายได้หลักพันจนมีรายได้เป็นล้านในเวลาแค่ปีเดียว

พอออเดอร์เยอะ ก็มองความเป็นมาตรฐาน เลยตัดสินใจเอาเงินไปเช่าโรงงานได้สําเร็จ จนสร้างยอดขายได้ 300 ล้านบาทต่อปี มีตัวแทนรายย่อยในกรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงได้ขายในเทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี

คุณผึ้ง เล่าต่อว่า ในวันที่ชีวิตประสบความสำเร็จ มีทุกอย่าง จู่ๆ สามีมีผู้หญิงอื่น ได้ส่งรูปกับสามีมาเยาะเย้ย แล้วช่วงนั้นตนท้องลูกคนที่ 3 อยู่ด้วย มีภาวะแท้งคุกคาม เครียดหนักที่สุดในชีวิต จนเกือบเสียลูกคนที่ 3 ไป จึงขอเลิกกับสามี ซึ่งสามีได้ยื่นข้อเสนอให้ คือ 1. สามีให้เงิน 1 ล้านบาท แล้วให้ตนออกไป ส่วนธุรกิจเบเกอรี่ให้เขา เขาจะดูแลเอง และ 2. ตนเอาธุรกิจไป ซึ่งตนคิดถึงลูก เพราะฉะนั้นเงิน 1 ล้าน ตนไม่เอาอยู่แล้ว ขอเลือกเอาธุรกิจ แต่กลายเป็นว่า พอเราได้ธุรกิจมา กลับมีหนี้ทิ้งไว้ที่บริษัท 10 ล้าน

โดยเป็นหน้ีท่ีเกิดจากการค้างจ่ายเงินกับ Supplier ซึ่งคิดว่าเขาตั้งใจทิ้งหน้ีไว้ให้เรา เครียดมากจนอยากฆ่าตัวตาย แต่มีคนมาช่วยไว้ทัน และเตือนสติจนกลับมาสู้อีกครั้ง

ตนเลยเอาชื่อลูกคนแรกมาบวกกับคนที่สอง "น้องน้ําหอม" กับ "น้องน้ํามนต์" เพราะเราคิดว่า ลูกนี่แหละคือคนที่ทําให้เราต้องสู้ ทําให้เรายังมีชีวิตอยู่ เรามาสู้ทําแบรนด์นี้เพื่อลูก ส่วนแบรนด์ของสามีเก่าได้ยินมาว่าไม่ได้ทำแล้ว

ส่วนโรงงานของตนตอนนี้ เริ่มจากลองผิดลองถูก อย่างตอนตั้งโรงงานใหม่ๆ ก็ไม่ราบรื่น จนต้องให้หมอมาช่วยดูที่ สุดท้ายก็ได้คําแนะนําให้หาลูกนิมิตจากวัดแห่งหนึ่งมาตั้งหน้าบริษัท แล้วมีรูปปั้นพญานาค หลังจากนั้นไม่น่าเชื่อว่า อุปสรรคต่างๆ ที่เคยติดขัดมันหายไปหมดเลย เปิดโรงงานฉลุย ยอดเข้ารัวๆ

ในปัจจุบันเรามีทั้งหมด 3 แบรนด์คือ หอมมนต์กรุ๊ป, Sweet’n Soft เป็นการนำแบรนด์เก่ามารีแบรนด์ ขายชิ้นละ 35 บาท 3 ชิ้น 100 อยู่ใน กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัดจะเป็น หอมมนต์ เบเกอรี่ ชิ้นละ 25 บาท เป็นการตลาดแบบป่าล้อมเมือง และสุดท้ายคือ many many delivery เค้กเกรดพรีเมียม 

"ทุกวันนี้กําลังการผลิตของเรา ตกต่อเดือนก็ 1,500,000 ชิ้นต่อเดือน ส่งขายท่ัว ประเทศ เหนือสุด อีสานสุด หรือใต้สุดอย่างปัตตานี เราก็ส่งขายนะคะ มีตัวแทนกว่า 60 จังหวัดท่ัวประเทศ"

คุณผึ้ง กล่าวว่า ชีวิตตอนนี้ประสบความสําเร็จแล้ว เราดูแลลูกเราได้ ดูแลลูกน้องร้อยกว่าคนที่โรงงานได้ และยังคงได้ทําเบเกอรี่ที่เราชอบ และชีวิตตอนนี้ก็แฮปปี้มาก เพราะมีสามีใหม่มาช่วยดูแลกิจการและดูแลลูกของตน หลังจากนี้วางเป้าหมายไว้ว่าอยากเอาแบรนด์เข้าตลาดหลักทรัพย์ อยากมีความมั่นคงกว่านี้ ฝันไว้ว่าอายุ 40 ปีก็อยากหยุดทํางานแล้ว เพราะเราทํางานมาตั้งแต่เด็กเลย แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกวันนี้จะไม่มีความสุข เรามีความสุขกับชีวิตตอนนี้มาก

สำหรับ รายการ "เศรษฐีป้ายแดง" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 และติดตามชมย้อนหลังได้ทาง YouTube ช่อง Thairath.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ