"เราชนะ" เริ่มประกาศผลการคัดกรองคุณสมบัติ สำหรับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการระหว่างวันที่ 15 – 21 ก.พ.นี้
วันที่ 3 มี.ค. 2564 น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการคัดกรองคุณสมบัติสำหรับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะ ระหว่างวันที่ 15 – 21 ก.พ. 2564 ประชาชนกลุ่มดังกล่าวสามารถตรวจสอบสถานะการคัดกรองคุณสมบัติได้ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยจะได้รับวงเงินสิทธิ์ครั้งแรก จำนวน 4,000 บาท ในวันที่ 5 มี.ค. 2564 และสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ดังกล่าวผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ผ่านผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ
ขณะที่ประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและสละสิทธิ์ด้วยเหตุผล "ไม่มีสมาร์ทโฟน" และได้มาลงทะเบียนในช่องทางเดียวกันกับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 15 – 21 กุมภาพันธ์ 2564 จะสามารถทราบผลการคัดกรองคุณสมบัติได้ในวันที่ 11 มี.ค. 2564 และจะมีการโอนวงเงินสิทธิ์ให้กับผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติในวันที่ 12 มี.ค. 2564 เนื่องจากอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องในฐานข้อมูลของผู้ขอสละสิทธิ์ดังกล่าว
สำหรับความคืบหน้าของโครงการฯ ณ วันที่ 3 มี.ค. 2564 มีดังนี้
1. ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ระหว่างวันที่ 15 – 21 ก.พ. 2564 และผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 0.5 ล้านคน
2. ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 33,561.6 ล้านบาท
3. ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว มีจำนวนมากกว่า 16.3 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 37,162.5 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์โครงการฯ รวมทั้งสิ้นจำนวน 30.5 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 70,724.1 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.1 ล้านกิจการ โดยจังหวัดที่มีผู้ใช้วงเงินสิทธิ์สูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, นครราชสีมา, อุบลราชธานี, ขอนแก่น และ เชียงใหม่.