นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ได้นำคณะเดินทางไปดูแหล่งผลิตมังคุดคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งผู้ผลิตและผู้ประกอบการ ได้ร่วมกันจัดทำคำขอเพื่อ ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) การมาในครั้งนี้ คณะผู้แทนจากหน่วยงานในจังหวัด เช่น สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานเกษตรจังหวัด กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการในพื้นที่ ได้นำเสนอความคืบหน้าการจัดทำร่างคำขอขึ้นทะเบียนจีไอ รวมถึงคู่มือปฏิบัติงานสำหรับสมาชิก ผู้ที่จะขอใช้ตราสัญลักษณ์จีไอ และแผนการควบคุมตรวจสอบสินค้าจีไอด้วย
“พื้นที่ปลูกมังคุดเขาคีรีวง อยู่ในตำบลกำโลน ตำบลท่าดี ตำบลเขาแก้ว ของอำเภอลานสกา ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเล 200 เมตร มีฝนชุกเป็นพื้นที่ป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ สามารถเพาะปลูกมังคุดด้วยวิธีธรรมชาติ ทำให้ได้ผลผลิตที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีผลใหญ่ เนื้อสีขาวรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ลูกกลม เปลือกหนา ผิวมันวาว กลีบขั้วสีเขียวสด ก้นรี ผลขนาดใหญ่มีน้ำหนักถึง 4 ลูกต่อ 1 กิโลกรัม (กก.) เปลือกหนา 1 เซนติเมตร เมล็ดไม่ใหญ่ ขายได้ กก.ละ 400-500 บาท และกรมฯได้รับคำขอขึ้นทะเบียนแล้ว คาดว่า จะรับขึ้นทะเบียนได้ในปีหน้า”
ทั้งนี้ กรมฯยังได้ลงพื้นที่สำรวจสินค้าชุมชน ของนครศรีธรรมราช ที่มีศักยภาพและมีโอกาสผลักดันเป็นสินค้าจีไอรายการใหม่ในอนาคต เช่น เครื่องจักสานย่านลิเภาเมืองนคร ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติคีรีวง เป็นต้น และที่ผ่านมาส้มโอทับทิมสยามปากพนัง ซึ่งเป็นสินค้าจีไอรายการแรกของนครศรีธรรมราช ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตั้งแต่ปี 2555 ด้วยคุณภาพและเอกลักษณ์ที่โดดเด่นสามารถครองใจผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ.