นำประเทศไทยฝ่า “มรสุม”
เมื่อวานนี้ ผมเขียนต้อนรับ “ว่าที่รัฐมนตรี” ด้านเศรษฐกิจ พร้อม กับเปรียบเทียบประเทศไทยว่า เหมือนเครื่องบินที่กำลังจะบินเข้าสู่บริเวณ “พายุ” หรือ “มรสุม” ทางเศรษฐกิจลูกใหญ่
พร้อมกับฝากความหวังไว้ที่ “กัปตันตู่” และบรรดาผู้ช่วยกัปตันคือ คณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ขอให้ช่วยนำเครื่องบินไทยแลนด์ของเราฝ่า “พายุ” อันร้ายแรงลูกนี้ไปให้จงได้
วันนี้เรามาว่ากันต่อเลยครับ พร้อมกับคำถามที่ผมนำมาพาดหัวคอลัมน์ไว้ว่า...จะไหวไหมเนี่ย กัปตันตู่ของพวกเรา?
ก่อนจะตอบว่า ไหวหรือไม่ไหว? เรามาลองประเมินสถานการณ์พายุล่าสุดกันเสียก่อนดีกว่าว่าฤทธิ์เดชของไต้ฝุ่น “โควิด-19” ลูกนี้เป็นอย่างไร? ทำให้โลกสะเทือนแค่ไหน?
สหรัฐฯเพิ่งแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้เองว่า เศรษฐกิจไตรมาส 2 ของเมืองลุงแซมหดตัวถึง 32.5% มากที่สุด นับตั้งแต่มีการเก็บสถิติเมื่อปี 2490 หรือเมื่อ 73 ปีที่แล้วเป็นต้นมา
เทียบกับเมื่อปีวิกฤติการเงินที่ว่าหนักหนาแล้ว ปรากฏว่ามากกว่ากันถึงเกือบ 4 เท่า เพราะเมื่อปี 2551 เศรษฐกิจสหรัฐฯที่ว่าหดตัวลงเป็นประวัติการณ์ก็หดไปแค่ 8.4% เท่านั้นเอง
ของยูโรก็เพิ่งแถลงตัวเลข GDP ไปหมาดๆเมื่อวานนี้ว่า ไตรมาส 2 จะหดไป 12.1% โดยสเปนจะหนักกว่าเพื่อนหดถึง 18.5%
จะมีก็แต่ยักษ์ใหญ่อย่างจีนเท่านั้น ที่แถลงออกมาว่า GDP ของเขาเริ่มฟื้นตัวในไตรมาสที่ 2 คือฟื้นกลับมาด้วยอัตราร้อยละ 3.2 หลังจากที่ร่วงลงไปราวๆ 6.8% ในไตรมาสแรก
น่าจะเป็นประเทศเดียวในโลกนี้ที่แถลงว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว
สำหรับของประเทศไทยเราเองนั้น ทุกๆสำนักทำนายเศรษฐกิจระดับบิ๊กของโลกต่างพยากรณ์ว่า เราจะได้รับผลกระทบมากสุดในอาเซียน (ทั้งๆที่เราจัดการแก้ปัญหาโควิด-19 ได้ดีกว่าเพื่อน)
ธนาคารโลกบอกว่า ทั้งปี GDP เราจะหดไม่น้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าจะลดทั้งปี 7.7% แย่ที่สุดในอาเซียนเช่นกัน
สำนักต่างๆในบ้านเราเอง คาดว่าจะลดประมาณร้อยละ 8 และตัวเลขการว่างงานอาจสูงแตะระดับ 10 ล้านคน แต่ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาให้ความหวังว่า ตัวเลขหลายๆตัวดูดีขึ้นในเดือนมิถุนายน แสดงว่าเศรษฐกิจไทยอาจลงไปถึงจุดต่ำสุดแล้วก็ได้
แต่ไม่ว่าอย่างไร GDP ไทยหดตัวแน่ๆ เพียงแต่จะหดมากหรือน้อยเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยบาดเจ็บ และเจ็บกว่าทุกครั้งที่เราเคยเจ็บมา แม้ในช่วงวิกฤติ “ต้มยำกุ้ง” ก็จะไม่แรงเท่าวิกฤติ “โควิด”
สรุปแล้ว “กัปตันตู่” จะต้องหนักและเหนื่อยอย่างสาหัส แน่นอนในการนำเครื่องบินประเทศไทยฝ่าเข้าสู่ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นลูกนี้
ลำพังผู้โดยสารนั่งรัดเข็มขัดนิ่งๆ ก็ยังเหนื่อยอยู่แล้ว แต่ปรากฏว่าของเรามาถึงยุค “บิ๊กตู่” ช่วงขาลงพอดิบพอดี
เสียงเรียกร้องให้ดำเนินการต่างๆ โน่นนี่นั่นดังกระหึ่มไปหมด การประท้วงประเภทแฟลชม็อบก็เกิดขึ้นทุกวันทั่วประเทศ ฯลฯ
เทียบกับเครื่องบินก็คือ ผู้โดยสารวิ่งพล่านไปทั้งลำ
ผมยังนึกไม่ออกเลยว่า เราจะฝ่ามรสุมอันหนักหน่วงครั้งนี้ไปได้อย่างไร
แต่ก็อย่างว่าแหละครับ...คนเรายังไงๆ ก็ต้องอยู่ด้วยความหวัง และสำหรับประเทศไทยเรา ใครไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่เป็นอันขาด
เจ็บแต่ไม่ถึงตาย...ร้ายแต่ก็ไม่แรงสุดๆ เผลอหน่อยเดียวก็มักจะฟื้นกลับมาได้ ซึ่งเกิดขึ้นแล้วหลายครั้งหลายหน
มองในแง่ไสยศาสตร์ก็คือ เรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
ส่วนการมองอย่างวิทยาศาสตร์ก็คือ ในแง่ความเป็นจริง GDP ของเราที่คิดคำนวณกันนั้น น่าจะต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงเยอะ เพราะมีหลายๆอย่างที่เราคำนวณไม่ได้ โดยเฉพาะธุรกิจและการทำมาหากินนอกระบบที่มีมูลค่ามหาศาลในบ้านเรา
นอกจากนั้น สังคมไทยส่วนใหญ่ยังเป็นสังคมเกษตรและชนบทผลกระทบจาก GDP หดตัวในชีวิตจริงจะรุนแรงน้อยกว่าในประเทศพัฒนาแล้ว ที่ต้องพึ่งพาการจ้างงานภาคอุตสาหกรรมและบริการในเมือง
ผมฟันธงว่าโอกาสที่ “บิ๊กตู่” กับทีมเศรษฐกิจของท่านจะไปไม่รอดค่อนข้างสูง แต่ประเทศไทยของเราจะยังคงรอดต่อไป เหมือนที่รอดมาตลอดกาลนาน และอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้
เอาละ! เครื่องบินกำลังจะเข้าสู่บริเวณอากาศแปรปรวนแล้ว... รัดเข็มขัดแน่นๆนะครับ...ขอให้โชคดีจงเป็นของคนไทยและประเทศไทย!
“ซูม”