รัฐบาลต้องรีวิวภาพ ศก.ใหม่ตัวเลขเลวร้ายขึ้นกว่าเดิม

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

รัฐบาลต้องรีวิวภาพ ศก.ใหม่ตัวเลขเลวร้ายขึ้นกว่าเดิม

Date Time: 10 ก.ค. 2563 05:01 น.

Summary

  • เมื่อวานนี้ผมนำบทวิเคราะห์ของ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก มาเล่าสู่กันฟัง เขาวิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยจะแย่ที่สุดในเอเชีย โดยมีตัวเลขจีดีพีคาดการณ์มายืนยัน วันนี้ได้เห็นตัวเลขเศรษฐกิจฝ่ายไทยเองแล้ว

Latest

กะเทาะ 5 สาเหตุ วิกฤติอสังหาฯ เมื่อคนไทย อยากมีบ้าน แต่มีไม่ได้! ยอดกู้ไม่ผ่าน พุ่งสูงสุด

เมื่อวานนี้ผมนำบทวิเคราะห์ของ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก มาเล่าสู่กันฟัง เขาวิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยจะแย่ที่สุดในเอเชีย โดยมีตัวเลขจีดีพีคาดการณ์มายืนยัน วันนี้ได้เห็นตัวเลขเศรษฐกิจฝ่ายไทยเองแล้ว ก็ต้องบอกว่า อาการน่าเป็นห่วงมากๆ ผมขอเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่กำลังเดินสายพบสื่อว่า รัฐบาลต้องมองภาพปัญหาเศรษฐกิจไทยใหม่ และแก้ปัญหาให้ตรงจุด เลิกการแก้ปัญหาแบบเหวี่ยงแหด้วยการ แจกเงินสะเปะสะปะ เงินหายแต่เศรษฐกิจไม่ฟื้น แถมทรุดหนักลงไปเรื่อยๆ

ไม่เชื่อวันหยุดเสาร์อาทิตย์ นายกฯ ลองเปลี่ยนจากสนามกอล์ฟไปเดินในห้าง จะเห็นความเงียบเหงาจนขนลุก โดยเฉพาะห้างที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

เมื่อวานนี้ผมใช้ข้อมูลของ บลูมเบิร์ก ที่คาดว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติในไทยปี 2563 นี้จะลดเหลือ 8 ล้านคน จาก 39.8 ล้านคนในปีที่แล้ว โดยคาดการณ์บนเงื่อนไข ไทยเปิดน่านฟ้ารับนักท่องเที่ยวต่างประเทศในครึ่งปีหลัง แต่เดือนกรกฎาคมนี้ชัดเจนแล้วว่า เรายังปิดน่านฟ้าต่อไปจนถึง 31 กรกฎาคม เดือนสิงหาคมค่อยว่ากันใหม่ เท่ากับว่าปีนี้เราเหลือเวลารับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อีกเพียง 5 เดือนเท่านั้น

วันวาน คุณยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ออกมาให้ตัวเลขว่า ททท.ได้มีการประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยใหม่อีกครั้ง หลังจากที่เริ่มผ่อนคลายอนุญาตให้ชาวต่างประเทศเดินทางเข้าไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม คาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยได้ประมาณ 8.2 ล้านคน (ใกล้เคียงกับบลูมเบิร์กที่ระบุว่ามี 8 ล้านคน) ลดลง 80% เมื่อเทียบกับปีก่อน ครึ่งปีหลังจะมีต่างชาติเดินทางมาไทย 1.5 ล้านคน โดย ไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) มีนักท่องเที่ยว ต่างชาติเดินทางมาทั้งสิ้น 6.7 ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยว 7.28 แสนล้านบาท ลดลง 40% จากปีก่อน

การส่งออกที่มีสัดส่วน 70% ของจีดีพี คุณกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ก็ออกมาแถลงถึงตัวเลข การส่งออกในปี 2563 คาดว่าจะติดลบถึง 10% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และความกังวลกับการระบาดรอบสองในสหรัฐฯ ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 50,000 คนต่อวัน และปัญหาโลจิสติกส์ปลายทางจากการล็อกดาวน์ของแต่ละประเทศ การส่งออกในเดือนพฤษภาคมที่ติดลบไป 22.5% เป็นการติดลบที่รุนแรงมาก ติดลบมากที่สุดในรอบ 130 เดือน (10 ปี 8 เดือน) นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2532 และการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังนี้มีแนวโน้มติดลบทุกเดือน

แม้จะส่งออกได้ก็ยังมี “ความเสี่ยงใหม่” ผู้สั่งซื้อสินค้าเบี้ยวหนี้ เพราะไม่มีเงินชำระค่าสินค้า บางประเทศมีการออกกฎช่วยผู้ประกอบการในประเทศของตน ซ้ำเติมผู้ส่งออกไทยทำให้เกิดการขาดสภาพคล่องเพิ่มขึ้นไปอีก

ฟังแล้วหนาวไหมครับท่านนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อสินค้าที่ผลิตส่งออกไม่ได้ โรงงานต่างๆก็ต้องหยุดการผลิต ต้องเลิกจ้างคนงาน ทำให้มีคนตกงานเพิ่มขึ้น จะว่างงานสูงถึง 8 ล้านคนอย่างที่ธนาคารโลกคาดไว้หรือไม่ ผมยังไม่มีข้อมูล แต่มีคนตกงานเพิ่มขึ้นแน่นอน ทำให้ปัญหาสังคมเพิ่มขึ้นตามมาเป็นวงจร

วันอังคาร ครม.เพิ่งอนุมัติเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจก้อนแรก 1 แสนล้านบาท จากเงินกู้ 4 แสนล้านบาท เน้นการเกษตร แหล่งนํ้า และสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชน นายกฯแถลงว่า “สถานการณ์ช่วงนี้ผมถือว่าเป็นช่วงลำบาก รัฐบาลก็ลำบากในการบริหาร ประชาชนก็ลำบากในการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ รัฐบาล ครม. พวกเราให้ความสำคัญเต็มที่ ขอเวลาให้เราบ้างในการทำงาน” ฟังแล้วก็งงๆ มาขอเวลาอีกแล้ว

ตอนแรกที่ปฏิวัติก็บอกว่า ขอเวลาอีกไม่นาน จะคืนความสุขให้ประชาชน วันนี้ผ่านไป 6 ปีกว่าแล้ว นอกจากประชาชนจะไม่ได้ความสุขคืนแล้ว ยังทุกข์หนักขึ้นกว่าเดิมอีก.

“ลม เปลี่ยนทิศ”


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ