เปิดรายละเอียดขั้นตอนเข้าร่วมแพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกัน ให้รับสิทธิ์กี่ล้านคนก็ได้ แต่คนอยากได้สิทธิ์จริงต้องรีบจองห้องพักโรงแรม เพราะจำกัดแค่ 5 ล้านคืน ขณะที่ใครอยากได้สิทธิ์เงินคืนตั๋วเครื่องบิน 40% ต้องรีบใช้สิทธิ์ก่อน เพราะจำกัดแค่ 2 ล้านใบ คาดคนใช้สิทธิ์พักโรงแรมคนแรกเริ่มได้ 21 ก.ค.นี้ ส่วนแพ็กเกจกำลังใจต้องรอก่อนเพราะเปิดให้บริษัททัวร์ลงทะเบียน 10 ก.ค. ส่วน อสม.ลงทะเบียนได้ 25 ก.ค.2563
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้เป็นประธานการแถลงข่าวมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว เที่ยวปันสุข ประกอบด้วยแพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกัน และกำลังใจ พร้อมด้วยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และนายพยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
โดยนายลวรณกล่าวว่า กระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้กำหนดคุณสมบัติของประชาชนที่จะลงทะเบียนรับสิทธิแพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกัน โดยต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน มีบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิท่องเที่ยวที่พัก และสิทธิประโยชน์อื่นๆ โดยขอย้ำว่าต้องใช้สิทธิในจังหวัดที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้านของตนเอง ซึ่งการลงทะเบียนขอแนะนำให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตังมาเตรียมไว้
โดยจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.2563 แบบไม่จำกัดจำนวน คือเข้ามากี่ล้านคนก็ได้ โดยลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น.ทุกวัน จากนั้นจะต้องรอเอสเอ็มเอสยืนยันการลงทะเบียนภายใน 3 วัน เมื่อได้รับสิทธิ์แล้วต้องรีบเข้าไปจองโรงแรม หรือโฮมสเตย์ เพราะสิทธิ์ดังกล่าวมีจำกัดแค่ 5 ล้านคืนเท่านั้น ดังนั้นใครได้รับสิทธิ์แล้วจะต้องรีบไปจองทันที เช่นเดียวกับสิทธิ์การได้รับเงินคืนจากตั๋วเครื่องบิน 40% แต่ไม่เกิน 1,000 บาท ที่จำกัดไว้แค่ 2 ล้านใบ
“ฉะนั้นใครใช้ก่อนมีสิทธิ์ก่อน และขอย้ำว่า การได้สิทธิ์ตั๋วเครื่องบินต้องผูกกับการจองห้องพักผ่านระบบเท่านั้น ซึ่งจะได้รับสิทธิ์ส่วนลด 2 ใบต่อ 1 ห้องพัก ผู้รับสิทธิ์จะต้องจ่ายเงินไปก่อน เมื่อบินแล้วต้องมาแจ้งขอคืนเงิน โดยจะมีการโอนเงินคืนให้ทุกวันที่ 15 และ 30 ของเดือน การร่วมรับสิทธิ์ส่วนนี้ต้องรีบเข้ามาลงทะเบียนเพราะจำกัดแค่ 2 ล้านใบ ซึ่งธนาคารกรุงไทยดูแลระบบคาดว่าจะเริ่มมีการเข้าพักครั้งแรกจากโครงการนี้วันที่ 21 ก.ค.”
สำหรับการจองโรงแรมและใช้สิทธิ์นั้น สามารถทำเป็นกรณีคือ กรณีเข้าพักคนเดียว จองสิทธิ์เต็มทั้ง 5 คืนในครั้งเดียวเลยก็ได้ หรือกรณีจองสะสมไว้ 5 คืน แต่คนละสถานที่ เช่น พักเชียงใหม่ 1 คืน ภูเก็ต 1 คืน และพัทยา 3 คืน และกรณีจอง 1 คืน แต่ 5 ห้องพัก เพื่อไปเที่ยวกับญาติหรือเพื่อนก็สามารถทำได้ และเมื่อได้จองเสร็จแล้ว ต้องจ่ายเงินผ่านแอปเป๋าตัง โดยจ่ายแค่ 60% และเมื่อจ่ายเงินแล้วจะยกเลิกไม่ได้ จากนั้นก็เดินทางไปเที่ยวและเช็กอิน เมื่อเช็กอินแล้วจะได้รับ E-Voucher 600 บาทต่อคืน ซึ่งจะผูกกับการจองห้องพัก เพื่อนำไปใช้เป็นส่วนลดในการกินอาหารในร้านค้าที่ร่วมโครงการ จากนั้นเมื่อเช็กเอาต์แล้ว E-Voucher จะหมดอายุ เวลา 23.59 น.ภายในวันนั้น โดยสามารถนำมาใช้จ่ายในร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการในระหว่างทางที่กลับบ้านจังหวัดใดก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ ร้านอาหารในที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตามทะเบียนบ้าน
นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่าแพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกันที่มีวงเงิน 20,000 ล้านบาท น่าจะมีเงินเหลืออยู่พอสมควร เพราะค่าห้องพักอาจจะใช้สิทธิ์ไม่ถึงคืนละ 3,000 บาท ซึ่ง รมว.การท่องเที่ยวฯได้มอบนโยบายมาแล้วว่า หากเงินเหลือจะเสนอ ครม.พิจารณาขยายสิทธิ์ของห้องพักและตั๋วเครื่องบินด้วย
ส่วนอีกโครงการคือ กำลังใจจะเริ่มเปิดให้บริษัทนำเที่ยวสมัครและลงทะเบียนถุงเงิน ผ่านเว็บไซต์กรุงไทย ได้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. จากนั้นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) จะสมัครลงทะเบียนวันที่ 25 ก.ค.นี้ ผ่านเว็บไซต์ www.เที่ยวปันสุข.ไทย โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไม่เกินคนละ 2,000 บาท สำหรับการเดินทางข้ามจังหวัด 2 วัน 1 คืน.