เฮ! ลั่นสนั่นเมือง...เมื่อ ศบค.คลายล็อกให้เดินทางข้ามจังหวัดได้ เพื่อใช้ท่องเที่ยวกู้เศรษฐกิจ หลังขังคนอยู่บ้าน “หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ด้วยวลีสั้นๆ “การ์ดอย่าตก” ขย้ำ “โควิด-19” ให้อยู่หมัด
ส่วนการเปิดช่องทางใช้ท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจดูจะผิดที่ผิดเวลา ขณะภาคครัวเรือนกำลังตกฟากยากไร้เงินไปเที่ยว กับสถานศึกษาจะเปิด 1 กรกฎาคมที่จะถึงนี้...จึงมีค่าใช้จ่ายจ่อคิวอยู่ข้างหน้า
สถานการณ์เป็นเช่นนี้เมื่อทีมเศรษฐกิจหน้าเดิมๆ ที่ดูร่อแร่ เลือกใช้ท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือทำงาน เพราะเชื่อว่าได้ผลเร็วกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ...ก็คงต้องจับตาดูกันต่อไปชนิดอย่ากะพริบตา
พอจะจำกันได้ว่า...ช่วงท่องเที่ยวถูกโควิดบูลลี่ บวกดาบสอง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กดดันหนัก...บรรดาบิ๊กๆองค์กรเอกชนรีบชิงออกมาแสดงตัวตน ขอเงินรัฐ 1 แสนล้านบาท เยียวยาธุรกิจให้เกิดสภาพคล่อง
ครั้นพอมีข่าว...จีนจะปลดล็อกให้คนออกท่องเที่ยวได้ กลุ่มทัวร์ไทย ขายจีนก็ออกโรงอีกรอบขอรัฐยกเว้นกักตัว 14 วันทัวร์จีนมาไทย...นี่คือ ภาพสะท้อนตัวตนผู้ประกอบการท่องเที่ยวบางกลุ่ม
เงื่อนปมสำคัญข้างต้นนี้ เลิศชาย หวังตระกูลดี ผอ.ททท.สำนักงานเซี่ยงไฮ้ ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก
“คนไทยจะกลับประเทศยังยาก เคยทำโพลถามเอเย่นต์จีน คำตอบ คือทัวร์จีนจะไปไทยได้ก็ช่วงตรุษจีนปีหน้า...ปัจจุบันจีนยังไม่อนุญาตให้ใครออกนอกประเทศ สเตจแรกที่ทำได้คือทัวร์ภายในมณฑล
สเตจสอง เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ถึงให้ทัวร์นอกมณฑล สเตจสาม อาจออกต่างประเทศได้ แต่เมื่อไหร่ไม่รู้?...และจากผลสำรวจที่จีนทำร่วมกับพาต้า พบว่าคนจีน 67% ยังไม่คิดเดินทาง มี 33% เป็นคนทำงานที่จะไปเองแบบเอฟไอที...เดินทางอิสระด้วยตัวเอง ประเทศในดวงใจคือญี่ปุ่น ไทยติดอันดับสอง”
นักวิเคราะห์ตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศมากประสบการณ์รายหนึ่ง เสริมว่าปัจจัยลบที่เกิดกับสถานการณ์ท่องเที่ยวโลกในวันนี้คือปัญหา เครื่องบินโดยสาร ซึ่งเป็นหัวใจการส่งเสริมการท่องเที่ยวอันดับต้นๆที่ทั้งโลกมี 35,000 ลำ แต่ทว่า 2 ใน 3 กลายเป็นนกปีกหัก ถูกจอดทิ้งไว้กับลานจอดจากพิษโควิด-19
แน่นอนว่า “ท่องเที่ยวไทย”...พลอยรับกรรมนี้ไปด้วย แถมยังบวกปัญหาสายการบินแห่งชาติสะดุดขาตัวเองอย่างที่รู้...ชัวร์ปึ้ก ธุรกิจการบินเริ่มบินได้เมื่อไหร่ ย่อมอยู่ในโหมด “Social Distancing”...ลดที่นั่งในเที่ยวบินเหลือ 70% ปรับค่าโดยสารสูงขึ้น ลามถึงซัพพลายเชน ให้ผู้ซื้อชะลอตัวลง
นี่เป็นแค่ฉากแรก...ประเด็นปัญหาการขับเคลื่อนท่องเที่ยวฟื้นตัวหลังเฟส 3
ฉากต่อมา...ให้ดูวิสัยทัศน์องค์กรท่องเที่ยวรัฐ เริ่มที่ ก.การท่องเที่ยวฯ บอกไว้เมื่อเดือน มี.ค. ขณะโควิดแผลงฤทธิ์...ไตรมาสแรกปีนี้ได้นักท่องเที่ยวต่างชาติตุนไว้ในมือ 6.7 ล้านคน หายไป 4.1 ล้านคน เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า....เหลียวมามองซีอีโอ ททท.ก็มีทีท่าซึมรับไตรมาส 2 เมื่อนักท่องเที่ยววืด...ดัชนีชี้วัดเท่ากับ “ศูนย์” ชัดเจน
เดือนถัดมา...หลังได้ประชุมกับหน่วยเหนือ ถึงได้เป้าต่างชาติมาอวด 14-16 ล้านคน รายได้ 1.23 ล้านล้านบาท เป็นรายได้ต่างชาติ 8.28 แสนล้านบาท ไทย 4.02 แสนล้านบาท จากไทยเที่ยวไทย 100 ล้านคนต่อครั้ง
ฮั่นแน่ะ ไม่บอก...ได้ฐานตัวเลขมาจากไหน และใช้กลยุทธ์ใดเป็นสังข์ทองเรียกเนื้อเรียกปลา?
มีแต่ ก.การท่องเที่ยวฯยืนยันก่อน ศบค.จะยืด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปถึง 30 มิถุนายน...ต่างชาติจะแห่มาเที่ยวไทยเดือนละกว่าล้านคน สอดรับเป้าที่ท่านซีอีโอฟุ้งไว้ โดยจะประสานจังหวัดที่พร้อมรับนักท่องเที่ยว แต่จะจำกัดให้เที่ยวอยู่เฉพาะพื้นที่นั้นๆ
ปุจฉาสำคัญมีว่า...อันนี้ไม่รู้เหมือนกันตัวเลข 14-16 ล้านคน คือทัวริสต์จากตลาดไหน ที่รักเมืองไทยใจแทบขาดในเมื่อไฟวิกฤติโควิดยังไม่มอด...และวัคซีนป้องกันยังไม่มี?
รู้เพียงแต่มาตรการรับมือ...คือ เตรียมของบฯฟื้นฟูที่รัฐพูนไว้ 4 แสนล้านบาท มาพัฒนาถนน-สะพานสู่แหล่งท่องเที่ยว ซึ่งเรื่องนี้ ดูดี...แต่ควรเป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม แม่งานสร้างปัจจัยพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค สาธารณูปการ
ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวฯน่าจะรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ จัดพัฒนา บุคลากรบริการด้านสุขอนามัย เตรียมรับ Social Distancingและปรับลุค New Normal ท่องเที่ยวไลฟ์สไตล์แนวใหม่มากกว่า
โมเมนต์นี้ นักวิเคราะห์ตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศรายเดิมย้ำว่า...สิ่งที่คนรักท่องเที่ยวแหล่งธรรมชาติสนใจมากสุด คือการกลับมาสวยสดใสในป่าเขาและท้องทะเลกว้าง ช่วงที่มนุษย์หยุดเข้าไปข้องแวะ...อันนี้ต่างหาก! ที่กรมการท่องเที่ยวซึ่งรับผิดชอบงานพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวโดยตรง...
“ควรเร่งบูรณาการงานร่วมกันกับหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ เพื่อจัด ระเบียบการนำคนเข้าไปท่องเที่ยว โดยจำกัดจำนวนไม่ให้เกินขีดความสามารถรองรับ ก่อนจะกลับมาเละตุ้มเป๊ะอีก”
ทั้งในเขตอุทยานแห่งชาติ ผู้ดูแลป่าและทะเล อุทยานประวัติศาสตร์ ที่ดูแลโบราณสถาน
ส่วนการเปิดเฟส 3 ที่มุ่งหนุน “ไทยเที่ยวไทย” ให้เงินสะพัด แต่การดำเนินงานด้านตลาดกลับขาดบรรยากาศ รีวิวภาพแหล่งท่องเที่ยวแต่ละภูมิภาคสนับสนุนให้ดูมีสีสันน่าสนใจ
กระตุ้นคนไทยให้คิดวางแผนเดินทาง นอกเหนือจากปล่อยให้ขุดคุ้ยข้อมูลกันเองทางเน็ต
“อย่างน้อยๆ ก็เป็นการช่วยกระจายนักท่องเที่ยว ลดการกระจุกตัวกับแหล่งใดแหล่งหนึ่ง เช่นเหตุที่เกิดกับหาดบางแสน เมื่อวันนักขัตฤกษ์ 3 มิถุนายน ทำเอารถติดตลอดแนวชายหาดสองกิโลเมตร”
แผนฟื้นฟูคราวนี้...ระบุจะมีการรีแบรนด์เป็น “เมืองไทยที่คุณวางใจ” ไร้โควิด ด้วยแคมเปญแนวละครทีวี “คิดถึง” หรือ Dream Now, Traveller Later ที่ขายฝัน...แต่จับต้องอะไรไม่ได้ กระนั้นหรือ?
แล้วตามติดมาด้วยการผุดไอเดียเดิมๆ...แจกคูปองลดค่าห้องพัก 40-50% อ้างเหตุผลกู้เศรษฐกิจคล้ายกิจกรรมเทเงินตามถนัด ที่เจ็บแล้วไม่จำ...กับใช้งบฯอัดฉีดนักลงทุนที่สลบพิษโควิดไปพักใหญ่
ถึงตรงนี้...พอตอบได้รึยัง? อะไรคือความสำเร็จส่งเสริมให้ “ไทยเที่ยวไทย” คึกคัก?เกือบลืมอีกงาน Amazing Thailand safety & Health Administration-SHA ที่ ททท.กับสาธารณสุข ทำแทน ก.พาณิชย์ เรียกธุรกิจท่องเที่ยว 10 สาขาอาชีพ เช่น โรงแรม บ.ทัวร์ ร้านอาหาร โรงหนัง สปา รถนำเที่ยว ร้านสินค้าที่ระลึก มารับป้าย SHA ที่ ททท.รับรองมาตรฐานสินค้าบริการ
กับ...ประกาศนียบัตรรับรองความปลอดภัยจากโควิด ไปแปะเป็นยันต์ขายธุรกิจบริการ
เรื่องนี้ควรทบทวนให้รอบด้าน...ยังพอจะจำกันได้ไหมว่าครั้งหนึ่ง ททท.นี่แหละ เคยแจกป้ายรูปแม่ค้าให้ร้านจิวเวลรีไปแปะไว้หน้าร้าน แก้ปัญหาการขายสินค้าเกินมาตรฐาน 300% ไม่ต่างที่ SHA กำลังลองของ
ผลคือ...เข้าทางพ่อค้าอ้างร้านนี้ของรัฐ โกยเงินไม่รู้เรื่อง... ทิ้งให้รัฐรับแต่เรื่องร้องทุกข์ สารพัดเผือกร้อนตามมา.