ตุนหน้ากากอนามัยส่อไร้มูลผิด“จุรินทร์” มึน ตั้งทีมสอบเหตุราคาพุ่ง 4.28 บาท

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ตุนหน้ากากอนามัยส่อไร้มูลผิด“จุรินทร์” มึน ตั้งทีมสอบเหตุราคาพุ่ง 4.28 บาท

Date Time: 12 พ.ค. 2563 08:15 น.

Summary

  • ผลสอบกักตุนหน้ากากอนามัย ของ คกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริงชุด 2 ที่มีปลัดเกษตรฯ เป็นประธาน ส่งถึงมือปลัดพาณิชย์แล้ว ส่อเค้าจบสวย เหตุกระบวนการบริหารจัดการเป็นไปตามระเบียบราชการ

Latest

ล้อมคอกรถโดยสารสาธารณะยึดมาตรฐาน "UN”

ผลสอบกักตุนหน้ากากอนามัย ของ คกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริงชุด 2 ที่มีปลัดเกษตรฯ เป็นประธาน ส่งถึงมือปลัดพาณิชย์แล้ว ส่อเค้าจบสวย เหตุกระบวนการบริหารจัดการเป็นไปตามระเบียบราชการ แย้งผลสอบชุดแรกพบช่องโหว่ ที่อาจทำให้เกิดขบวนการกักตุน ส่งปลัดสำนักนายกฯพิจารณาต่อ ขณะที่ “จุรินทร์” สั่งตั้ง คกก.สอบราคาหน้ากากอนามัยที่โรงงานขายให้รัฐ พุ่งพรวดถึงชิ้นละ 4.28 บาท จากเดิม 2 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการกักตุนหน้ากากอนามัย ชุดที่ 2 ที่นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้แต่งตั้งขึ้น โดยมีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน เพื่อนำผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงพาณิชย์ชุดแรก ที่มีนายสุพพัต อ่องแสงคุณ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน มาขยายผลการตรวจสอบเพิ่มเติมนั้น ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นตามเวลาที่กำหนด คือ วันที่ 30 เม.ย.63 และได้เสนอผลการตรวจสอบดังกล่าวต่อนายบุณยฤทธิ์ และนายบุณยฤทธิ์ได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อแล้ว

สำหรับผลการตรวจสอบพบว่า กระบวนการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยของศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัยที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และองค์การเภสัช บริหารจัดการเพื่อกระจายหน้ากากอนามัยจากโรงงานผลิต 11 แห่งในประเทศ ไปสู่กลุ่มที่มีความต้องการใช้ เช่น โรงพยาบาล กลุ่มเสี่ยง และประชาชนผ่านร้านค้าต่างๆ นั้นเป็นไปตามระเบียบราชการ

อย่างไรก็ตาม ผลสอบดังกล่าวแย้งกับผลสอบของคณะกรรมการชุดแรกที่สรุปว่า กระบวนการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยมีช่องโหว่ที่อาจทำให้เกิดขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัยได้ เพราะแม้กรมการค้าภายใน ส่งเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าโรงงานทั้ง 11 แห่งทุกวัน เพื่อตรวจสอบว่า ในแต่ละวัน โรงงานผลิตได้เท่าไร และส่งไปให้โรงพยาบาล หรือห้างใดบ้าง แต่กำหนดเวลาไปเฝ้าโรงงานตั้งแต่ 07.00-17.00 น. หลังจากนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่กลับแล้ว ไม่ทราบได้ว่า โรงงานแอบเอาหน้ากากไปขายให้ใครหรือไม่ อย่างไร จึงอาจเป็นช่องโหว่ที่อาจทำให้เกิดขบวนการกักตุนได้ และส่งผลให้ขณะนั้นมีผู้โพสต์ขายหน้ากากในโลกโซเชียลจำนวนมาก ทั้งๆที่ประชาชนหาซื้อยากและราคา แพงมาก

สำหรับการตั้งคณะกรรมการทั้ง 2 ชุดนั้นสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ประชาชนเดือดร้อนจากการหาซื้อหน้ากากอนามัยยาก และราคาแพง แต่กลับมีผู้โพสต์ขายในโลกโซเชียลจำนวนมาก บางรายมีขายตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักล้านชิ้น จึงตั้งข้อสังเกตว่าคนเหล่านี้หาหน้ากากมาจากที่ใด ทั้งๆที่ในขณะนั้นกรมการค้าภายในสั่งให้โรงงานผลิตส่งทุกชิ้นที่ผลิตได้ให้รัฐ และนำมาซึ่งการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งย้ายนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ไปทำงานที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสั่งให้ตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สัปดาห์ที่ผ่านมานายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงราคาหน้ากากอนามัยในขณะนี้ ที่กรมการค้าภายใน รายงานต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ว่า โรงงานหน้ากากขึ้นราคาที่ขายหน้ากากให้กับรัฐเป็นชิ้นละ 4.28 บาท จากก่อนหน้านี้ ขายชิ้นละ 2 บาทว่ามีสาเหตุมาจากอะไร และเหตุใด ศบค.ได้อนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย ซื้อในราคาดังกล่าวเพื่อแจกจ่ายให้โรงพยาบาล และกลุ่มเสี่ยงในจังหวัดต่างๆ.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ