เซ็นทรัลตอบ “บิ๊กตู่” โชว์ทุ่ม 2.3 พันล้าน

นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล เปิดเผยว่า กลุ่มเซ็นทรัลตอบรับนโยบายรัฐบาลภายหลังได้รับจดหมายจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยปรับแนวทางการแก้ปัญหาให้เข้ากับแผนรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมบูรณาการให้เกิดความยั่งยืนภายใต้งบประมาณเกือบ 2,300 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่มาตรการช่วยเหลือพนักงานในเครือกว่า 74,000 ราย โดยคงสถานะการจ้างงานและการมอบประกันภัยโควิด-19 ให้กับทุกคน รวมถึงได้มีการริเริ่มโครงการต่างๆภายในปี 2563

โดยมุ่งไปที่กระบวนการภายใต้ความต้องการพื้นฐานทั้ง 3 ส่วน อันได้แก่ มาตรการสร้างอาชีพ เสริมรายได้ โดยการให้พื้นที่ขาย 90,000 ตร.ม. ใน 100 ศูนย์การค้าใน 44 จังหวัด และผ่านช่องทางออนไลน์ มูลค่ารวมกว่า 550 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจในเครือของเซ็นทรัลให้พื้นที่ฟรี เพื่อสนับสนุนให้ชุมชน เกษตรกรและผู้ประกอบการขนาดเล็กกว่า 16,000 รายใน 44 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้เข้ามาขายสินค้าเป็นเวลา 3-6 เดือน คาดว่าจะเกิดการหมุนเวียนในเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้เกษตรกร และผู้ค้ารายย่อย กว่า 3,500 ล้านบาท

นอกจากนั้น ยังได้อนุมัติวงเงิน 1,500 ล้านบาท เพื่อรับซื้อสินค้าโดยตรงจากเกษตรกรและชุมชน เป็นการรับซื้อสินค้าโดยตรงจากเกษตรกรนำมาจำหน่ายในศูนย์การค้า สนับสนุนให้ชุมชนและเกษตรกรมีรายได้ 25,000 ครัวเรือน ใน 42 จังหวัด รวมถึงการช่วยเหลือคนพิการให้มีอาชีพ ใช้งบประมาณ 150 ล้านบาท

ตลอดจนสร้างแพลตฟอร์มระดมทุนออนไลน์ (Crowdfunding Platform) ให้คนที่ต้องการเริ่มธุรกิจใหม่แต่ยังขาดเงินทุน รวมถึงสนับสนุนนักเรียน โรงเรียน โรงพยาบาล และงานวิจัย ตั้งเป้าการระดมทุนกว่า 100 ล้านบาท

เครือเซ็นทรัลยังลดและตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นกว่า 3,000 รายการ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยซุปเปอร์มาร์เกตในกลุ่มเซ็นทรัล ร่วมโครงการกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และผู้ผลิตสินค้าในการลดราคา 5-68% ในท็อปส์ทุกสาขาทั่วประเทศ ตลอดปี 2563 และการตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอีกกว่า 23,000 รายการ ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. โดยจะไม่มีการขึ้นราคาในช่วง 90 วัน รวมทั้งลดราคาอาหาร 20% ในศูนย์อาหาร 87 แห่ง ใน 43 จังหวัด โดยจัดให้มีอาหารราคาพิเศษ เริ่มต้นที่ 19 บาท ที่เซ็นทรัลฟู้ดคอร์ต 33 แห่ง โรบินสันฟู้ดคอร์ต 24 แห่ง และท็อปส์ฟู้ดคอร์ต 30 แห่ง

ส่วนมาตรการส่งเสริมสุขภาพ ได้สร้างมาตรฐานใหม่เพื่อเป็นแผนแม่บทในการทำธุรกิจให้ปลอดภัยเพื่อป้องกันการระบาด โดยใช้มาตรการ สะอาด ปลอดภัย ในศูนย์การค้าและผู้เช่าทุกราย

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่ามาตรการทั้งหมดจะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระของรัฐบาล และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยได้ และพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติสูงสุด.