กองทุนรวมน้ำมัน-หุ้นไตรมาส 1 วูบ

นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผลตอบแทนกองทุนรวมประจำไตรมาส 1 ปีนี้ ติดลบถึง 25 ประเภทกองทุน จากทั้งหมด 34 ประเภทกองทุน โดยกลุ่มกองทุนน้ำมัน (Commodities Energy) ให้ผลตอบแทนติดลบสูงสุดถึง 52.1% ตามราคาน้ำมันดิบที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 17 ปี รองลงมาคือกลุ่มกองทุนหุ้นไทยขนาดกลาง/เล็ก (Equity Small/Mid-Cap) ติดลบ 27.89% และกลุ่มกองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ (Equity Large-Cap) ติดลบ 27.33% ตามภาพรวมตลาดหุ้นไทย ที่ปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดในรอบ 9 ปี ขณะที่กองทุนรวมประเภทอื่นๆ ที่ผลตอบแทนติดลบ เช่นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ

“กองทุนที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก คือกลุ่มที่ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ เช่น ทองคำ ตราสารหนี้ สะท้อนความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจหดตัวทั่วโลก และการระบาดของโควิด-19 โดยกลุ่มกองทุนทองคำ (Commodities Precious Metals) ให้ผลตอบแทนสูงสุด 9.2% ตามราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มกองทุนตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้ผลตอบแทนเป็นบวกเกือบทุกกลุ่ม แม้อัตราผลตอบแทนไม่สูง แต่ก็ไม่ติดลบเหมือนสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ”

สำหรับกองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (SFFX) ที่เปิดให้ลงทุนเมื่อวันที่ 1 เม.ย.รวม 18 กองทุน มีเม็ดเงินไหลเข้าไม่มากนัก ข้อมูลสินทรัพย์สุทธิ ณ วันแรกที่เปิดซื้อขาย อยู่ที่ 909.45 ล้านบาท โดยบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวงจำกัด (บลจ.) มีมูลค่าสินทรัพย์สูงสุด 266 ล้านบาท รองลงมาคือ บลจ.กสิกรไทย 254 ล้านบาท บลจ.กรุงศรี 95.98 ล้านบาท ล่าสุด ณ วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา กองทุน SFFX มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 1,251 ล้านบาท ตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีหุ้นไทย.